วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ราศีพิจิก


ราศีพิจิก

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 13 ธันวาคม
ไม่ว่าปีใดๆ


ดูจากภายนอกชาวพิจิกเป็นคนเปิดเผย โผงผาง แต่แท้จริงซ่อนความเร้นลับไว้ได้มิดชิด เชื่อมั่นในตนเองสูง และมีสัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองสูง

 

การทำความเข้าใจราศีพิจิกหรือคนที่เกิดในราศีพิจิก ก็จะต้องรู้จักธาตุของราศีพิจิกซึ่งท่านได้จัดให้เป็นราศีธาตุน้ำ ราศีพิจิกเริ่มตั้งแต่องศาที่ 211 ไปจนถึงองศาที่ 240 ของท้องฟ้า ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 13 ธันวาคม ของทุกๆปี อาทิตย์จะโคจรอยู่ในราศีนี้เป็นเวลา 30 วัน ประมาณวันละ 1 องศา ผู้ที่เกิดในระยะวันเวลาดังกล่าวนี้ จะได้รับอิทธิพลจากอาทิตย์ในราศีพิจิกจึงถือกันว่าผู้ที่เกิดในระยะเวลาดังกล่าวนี้คือราศีพิจิก

ความหมายของราศีพิจิกที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเจ้าชะตา นอกจากจะใช้อิทธิพลพลังงานของอาทิตย์ในราศีนี้แล้ว โหรโบราณได้กำหนดเอาความสำคัญของธาตุประจำราศีคือธาตุน้ำมาเป็นหลักสำหรับการพิจารณาคุณสมบัติหรือนิสัยใจคอของเจ้าชะตา ยิ่งไปกว่านั้น ราศีพิจิกเป็นราศีที่ถูกจัดให้มีดาวหรือมีเทพเจ้าองค์หนึ่งเป็นเจ้าของ ทำหน้าที่ครอบครองหรือเป็นเจ้าหน้าที่บริหารผู้มีอำนาจเต็มได้แก่ดาวอังคารคือเลข แล้วท่านก็เอาความหมายของดาวอังคารประกอบเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง แล้วก็ทายออกมาถึงลักษณะอุปนิสัยใจคอและความเป็นไปในวิถีชีวิตของเจ้าชะตา ก่อนที่จะทำความเข้าใจในอิทธิพลของราศีพิจิก หรือคนที่เกิดมาในราศีพิจิกจะเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจก่อนก็คือ ธาตุประจำราศีคือธาตุน้ำ

คำว่าน้ำ ก็ไม่มีคำอธิบายอะไรมากนัก นอกจากน้ำก็คือของเหลว มีลักษณะเลื่อนไหล เยือกเย็น และเป็นตัวละลาย ในทางด้านโหราศาสตร์ ก็นำมาใช้เป็นความหมายสำหรับสิ่งใดๆที่เลื่อนไหล อ่อนละลาย ซึ่งหมายถึงอารมณ์และความรู้สึกนึกคิด น้ำและเยื่อเมือก หรือโลหิตต่างๆ ในร่างกายของเจ้าชะตาซึ่งอาจจะพอสรุปได้ดังนี้

"ธาตุน้ำ ให้อิทธิพลเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกนึกคิด หรือให้ความหมายไปถึงอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดจินตนาการหรือสัญชาตญาณอันมีผลเนื่องมาจากความคิดฝัน จินตนาการและผัสสะอันล้ำลึก นอกเหนือจากความรู้และความเข้าใจ ราศีพิจิกซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำจึงเน้นไปถึงอารมณ์ของเจ้าชะตา ที่มักจะปล่อยให้ตกไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของจินตนาการและความคิดฝันอันไม่สามารถจะเข้าใจได้ ค่อนข้างจะอ่อนแอเช่นเดียวกับร่างกาย จะไม่ค่อยเข้มแข็งทะมัดทะแมงเท่าที่ควร อารมณ์และจิตใจค่อนข้างระวังระไว หวั่นไหวและระมัดระวัง ขี้ตื่นตกใจ เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายในมากกว่าที่จะแสดงออกมาจิตใจสามารถรับเอาความรู้สึกและสิ่งที่มากระทบได้ง่าย ชอบครุ่นคิดคำนึง มีความรู้สึกเฉียบไวต่อสิ่งที่ผ่านเข้ามากระทบ ลึกลับและไม่สามารถหยั่งรู้ได้ว่าอะไรมาจากไหน นอกจากมโนคติ ขี้อายและกระดากกระเดื่อง อ่อนโยนและพร้อมที่จะตกอยู่ในอำนาจของความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับใจน้อยและขี้อาย"

นี่เป็นลักษณะของราศีธาตุน้ำและราศีพิจิกที่เป็นราศีธาตุน้ำ นอกจากจะเอาลักษณะของธาตุน้ำประจำราศีมาเป็นหลักแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่นำมาใช้ให้ความหมายสำหรับการทำนายผู้ที่เกิดในราศีนี้อีกด้วยคือดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าที่ถูกจัดให้ทำหน้าที่ครอบครองหรือเป็นกรรมการผู้จัดการราศีคือ อังคารหรือเลข อังคาร หรือ 3 ตามความหมายทางโหราศาสตร์ หมายถึง :-
"อารมณ์ที่คุกรุ่นไม่เคยดับ เน้นหนักไปทางความเคียดแค้นและโทสจริต วุ่นวาย ร่องรอยของบาดแผลที่เกิดจากเหล็กและไฟ การตายโดยปัจจุบันทันด่วนหรืออุบัติเหตุกะทันหัน ความวู่วาม การมีชื่อเสียงในการรบและความกล้าหาญ ความกระเหี้ยนกระหือรือ ความเจ็บปวด ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้ ผู้ที่เกิดภายใต้อิทธิพลดาวอังคารจึงเป็นผู้ที่ไม่เกรงกลัวอะไรมาก ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ในชีวิตหรืออุปสรรค มีความกล้าหาญ ง่ายต่อการที่จะโกรธและใช้อารมณ์ ชอบความเด่นดัง โป้งป้างโผงผางและแสดงออก ฉลาดและแหลมคม มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในวิชาชีพและแต่ละสาขาที่ตนเลือก ชอบการเปลี่ยนแปลงและไม่ยอมอยู่นิ่ง"
จากราศีเมษอันเป็นราศีที่หนึ่งหรือเป็นอัตตาของจักรวาล ราศีพิจิก เป็นราศีที่ 8 ของจักรวาล ซึ่งหมายถึงการจบสิ้นหรือการตาย หรือในขณะที่ราศีเมษเป็นราศีแห่งการเกิด พิจิกก็เป็นราศีของการดับ และเป็นราศีของธาตุน้ำ ราศีพิจิกจึงบ่งถึงอุดมคติ มโนคติ อารมณ์ และการดับสูญของสิ่งที่เกิดจากราศีเมษ ราศีพิจิก เป็นราศีเพศหญิง สัญลักษณ์ของราศีนี้คือแมงป่อง เป็นราศีที่บอกถึงเครื่องหมายทางพศ ทวารหนัก และอวัยวะสืบพันธุ์

รูปร่างลักษณะ
: ถ้าพูดในรูปของเส้น ผู้ที่เกิดใต้อิทธิพลของดาวอังคาร เส้นนั้นหมายถึงเส้นตั้งตรง ถ้าเป็นมุม ไม่ใช่มุมโค้ง แต่เป็นมุมแหลมที่คม โดยลักษณะนี้ ชาวราศีพิจิกที่เกิดใต้อิทธิพลของดาวอังคาร จึงมีรูปร่างในลักษณะเล้นตรง สูงหรือใหญ่กว่าบุคคลอื่นโดยเฉลี่ย ถ้าหากไม่มีอิทธิพลของดาวดวงอื่นๆมาบีบให้เปลี่ยนไป แขนมือค่อนข้างจะยาวกว่าธรรมดา รูปร่างได้ส่วนสัดเหมาะสมของแต่ละส่วน หน้ากว้าง มีลักษณะน่าเกรงขาม ร่างกายมักจะมีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อ หรือไม่สะโหลสะเหลปวกเปียก ผมสั้นและมักหยักหรือหยิกมีบุคลิกลักษณะดีและน่าสนใจ

สภาพทางจิตใจ
: โดยลักษณะและธรรมชาติของดาวอังคาร ซึ่งหมายถึงความร้อนแรง การระเบิด และวู่วาม กล้าสู้กล้าทำ หรือมีสัญชาตญาณของการต่อสู้และเสี่ยงภัย ทำให้ผู้ที่อยู่ใต้อิทธิพลของดาวอังคารนั้นเป็นคนที่อยู่ด้วยความกรุ่นของอารมณ์ที่กระเหี้ยนกระหือรือ โป้งป้างโผงผางเสี่ยงภัยและไม่หยุดไม่นิ่ง อารมณ์ร้อนไม่ยอมใคร พร้อมที่จะสู้ และพร้อมที่จะตายดาบหน้า ใช้อารมณ์มากกว่าที่จะใช้เหตุผล ร้อนเหมือนไฟ

แต่เมื่ออังคารนั้นเปลี่ยนจากราศีเมษมาเป็นราศีพิจิกซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ ความหมายของดาวอังคารหรืออิทธิพลของดาวอังคารที่มาอยู่ในน้ำก็มีสภาพแตกต่างไปจากอังคารในราศีธาตุไฟเช่นราศีเมษ นั่นก็คือ อังคารในราศีพิจิกทำให้เจ้าชะตามีความรู้สึกไปในทางอารมณ์ อังคารจะมีอิทธิพลและบทบาทเหนืออารมณ์มากกว่าทางร่างกาย แทนที่อังคารจะบงการให้เจ้าชะตาแสดงความโกรธออกมาอย่างวู่วามหรือสู้ในทันทีทันใด ไม่คิดหน้าคิดหลังเหมือนอังคารในราศีเมษ อังคารราศีพิจิกจะเก็บงำและอดทนกว่า จะคิดโกรธแค้นและพยาบาทอยู่ในใจ

การต่อสู้และการแก้แค้นนั้นจะทำอย่างล้ำลึกและเงียบๆ เอาเป็นเอาตายถ้าหากความโกรธนั้นไม่สามารถจะแก้ไขได้ อังคารในราศีพิจิกก็จะนำมาลงโทษตัวเอง และทำลายตัวเอง ปกปิด มีเงื่อนงำ มีนโยบายและแผนการที่ลึกซึ้งกว่าอังคาร ราศีเมษ การสู้กับศัตรูและอุปสรรคในชีวิต จะสู้ไม่มีวันหยุด และถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ อังคารในราศีพิจิกจะยอมตายเอง แทนที่จะแพ้เพื่อมีชีวิตอยู่ ชาวราศีพิจิกจึงเป็นคนที่มีความลึก อารมณ์หนักแน่น โกรธนานและจดจำหนัก สู้อย่างดื้อด้านดันทุรังไม่ยอมแพ้ สู้จนกว่าตัวจะชนะหรือจนกว่าจะตายไปเอง 

บุคลิกลักษณะและอุปนิสัย
: โดยรูปร่างท่าทางที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเดินเชิดไหล่หรือมีลักษณะเป็นเส้นตรง ชาวราศีพิจิกมีความเชื่อมั่นในตัวเองหรือแสดงความเชื่อมั่นในตัวเองให้เห็นไปทุกๆรูป และทุกลักษณะของการแสดงออก แต่ทุกๆแง่มุมของการแสดงออกนั้น ไม่เป็นไปในลักษณะโอหัง เหิมเกริม หรือยกตนข่มท่านหรือแสดงว่าตนมีความสำคัญต่อผู้อื่นที่ควรจะเกรงกลัวหรือสยบต่อเขาด้วยอำนาจบารมี เปล่าเลย เขาเพียงแต่เชื่อมั่นในตัวเองและมีความเป็นตัวของตัวเองที่จะทำหน้าที่ของแมงป่องเท่านั้น คือไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เขามากนัก ถ้าการเข้าใกล้นั้นเขารู้สึกว่าเป็นอันตรายและเป็นภัยต่อเขา สัญชาตญาณการป้องกันตัวเองและปกปักรักษาตัวเองนั้น มีอยู่ทุกก้าวย่างของชีวิต! 

โดยที่ราศีพิจิกเป็นราศีที่ปกครองโดยดาวอังคาร หรือมีอังคารเป็นตัวให้อิทธิพล ร่วมด้วยพลังงานของอาทิตย์ จึงไม่เป็นการแปลกที่จะทำให้ชาวราศีพิจิกเกิดเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง และทะนงในตัวเองอย่างหาที่เปรียบมิได้ อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความตื่นและกระตือรือร้นตลอดเวลา กล้หาญ มีพลัง แต่ความกระตือรือร้นและความมั่นใจในตัวเองนั้น เขาจะไม่แสดงมันออกมานอกหน้าหรือปล่อยให้มันวุ่นวายไปเพื่อจะรบกวนคนอื่น หรือให้เป็นที่รำคาญสำหรับคนอื่น เพราะความเยือกเย็นของน้ำและความลึกของราศีพิจิก เขาจะเก็บงำทุกอย่างไว้ภายนอก ในขณะที่ภายในใจและอารมณ์ของเขาจะโครมครามอยู่ด้วยความเกลียดชังหรือความโกรธก็ตาม 

สติปัญญาของเขามีความแหลมคมและลึกล้ำเช่นเดียวกับจินตนาการอันกว้างไกลไพศาล ซึ่งมันจะฝังลึกอยู่ภายในก้นบึ้งของประสาทสมอง และในอารมณ์ของเขาในฐานะที่มันเป็นราศีธาตุน้ำ เขาจะไม่แสดงมันออกมาเพื่อให้เป็นที่รำคาญแก่ใคร ถ้าเขาจะทำ เขาจะทำมันเงียบๆหรือแสดงออกมาอย่างเงียบๆ ถ้าเขาเป็นอาชญากร เขาก็จะเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษในการวางแผนทำลายอย่างไม่มีใครคาดคิด ถ้าเขาจะใช้จินตนาการและสติปัญญาเหล่านั้นไปในทางประดิษฐ์คิดค้น เขาจะสามารถค้นคว้าไปถึงสิ่งที่คนอื่นค้นไม่ได้และแสวงหาไม่พบ 
ถ้าเขาเป็นนักผ่าศพในฐานะของนายแพทย์ เขาก็จะค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ในศพนั้นที่จะนำมาเป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ได้ โดยความคิดและจินตนาการที่ตัวเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าความสามารถและอัจฉริยวุฒินั้นมาจากไหน ถ้าเขาเป็นนักประดาน้ำที่มุ่งลงสู่ทะเลลึก เขาก็จะลงไปลึกกว่านักประดาน้ำธรรมดา ซึ่งจะทำให้เขาลงไปพบสิ่งมหัศจรรย์อันคาดไม่ถึงในความลึกนั้น ถ้าเขาเป็นนักขุดเจาะน้ำมันหรือแร่ในมหาสมุทร เขาก็จะประสบความสำเร็จจากการค้นคว้าและแรงจินตนาการที่เขามีอยู่ ซึ่งตัวเขาเองก็บอกไม่ได้ว่าอะไรบันดาลให้เขาต้องคิดเช่นนั้น ชีวิตของเขา ถ้าเขาสู้หรือต้องการทำอะไรให้สำเร็จ ถ้าเขาแพ้และพลาดพลั้งลงไป เขาจะไม่ยอมหยุดการต่อสู้และการกระทำนั้น จนกว่าเขาเองจะแตกดับและตายไปเพราะการสู้และการกระทำนั้น 

เขาจะไม่โทษใครและจะไม่โยนความผิดให้แก่ใคร และเขาก็จะไม่บอกกล่าวอ้อนวอนใครด้วย เขาจึงเป็นคนเข้าใจยากและไม่มีใครสามารถมองเขาออกได้ง่ายๆด้วย ถ้าเขาลงมือทำงาน เขาจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หรือไม่รู้ว่าการหยุดพักคืออะไร เขาจะทำมันไปเรื่อยๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนกว่าจะประสบความสำเร็จหรือตามที่คนอื่นคิดเห็น ตรงข้ามเขาจะคิดเอาเองและพยายามเรียนรู้เอาด้วยตนเอง วิชาการที่เขาเรียนรู้มาจากโรงเรียนหรือจากมหาวิทยาลัย เป็นแต่เพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งหรือเป็นแต่เพียงจุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น ทุกอย่างที่เขาทำอยู่ในชีวิตหรือที่เขาได้มา จะมาจากแนวคิดหรือการคิดการสรรหาของเขาเองจากที่ใดที่หนึ่ง ที่เขาสามารถจะทำได้แตกต่างไปจากคนอื่นเท่านั้น 

เขาเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นนักค้นคว้าและเป็นนักแสวงหา เป็นนักบุกเบิกค้นคว้าในสิ่งที่คนอื่นค้นไม่พบ หรือในสิ่งที่คนอื่นยังค้นไปไม่ถึง เขาชอบเรื่องยากๆที่จะต้องใช้ความคิดและจินตนาการอันพูดไม่ออกบอกไม่ได้ จัดการแสวงหาและทำมันขึ้นมา เรื่องยากๆนั้น ควรจะเป็นเรื่องลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุดลึกที่ดำดิ่งลงไปในใต้น้ำใต้ดิน หรือแม้แต่เรื่องของจิตและวิญญาณที่คนไม่เคยรู้จัก เขาสามารถที่จะขุดค้นลงไปสัมผัสกับมันจนได้ เพราะฉะนั้น เขาจึงดูเหมือนว่าเป็นคนมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำได้ เขาเป็นนักคิดและเป็นนักแสวงหาเหตุหาผล และเป็นนักค้นคว้าที่มีทิศทางตรงข้ามกับคนอื่น และในเรื่องที่คนอื่นไม่คิดกัน เฉพาะเรื่องที่ลึกลับ แม้แต่เรื่องทรงเจ้าเข้าผีหรือเรื่องวิญญาณ การทำงานหรือในด้านการปฏิบัติของเขานั้น เอาแน่นอนไม่ได้ บางครั้งเขาจะเป็นนักปฏิบัติที่ดีและมีสมรรถภาพดีเยี่ยม แต่ในบางครั้งการทำงานหรือการปฏิบัติของเขาจะรีบร้อนหุนหันพลันแล่นเอาดีไม่ได้ ซึ่งมันก็ขึ้นกับอารมณ์และความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงของเขา เขาเป็นคนมีหลายอารมณ์ ในขณะที่เขาเกลียดเขาโกรธอะไรต่ออะไรอยู่เต็มอกเหมือนจะอาเจียนเป็นเลือดนั้น เขาก็อาจจะไปสู่เรื่องอื่นหรือมีเรื่องอื่นแทรกซ้อนเข้ามาในอารมณ์ และทำให้เขาต้องใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งมาสนใจกับเรื่องที่เข้ามาใหม่นั้น แต่เขาจะไม่ลืมเรื่องเก่าและความโกรธเก่าๆ มันฝังใจอยู่ และเมื่อถึงเวลาที่เขารู้ว่าจะต้องคิดบัญชีหรือจัดการกับมัน เขาก็จะจัดการกับมันทันที และด้วยความเจ็บปวดและรุนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาเป็นคนมีความอดทนอย่างล้ำลึกต่อความเจ็บปวด ความผิดหวัง ความทุกข์ทรมาน เขาจะไม่ร่ำร้องและประกาศให้ใครรู้ถึงความเจ็บปวดหรือความผิดหวังเหล่านั้นของเขา เขามีความเชื่อมั่นในความอดทนที่เขามีอยู่ และมั่นใจในความอดทนของตนเองว่าสามารถจะทนได้ และในขณะที่อดทนอยู่นั้น ในอารมณ์ของเขาจะโครมครามอยู่เหมือนคลื่นในมหาสมุทรที่กำลังโหมซัดเข้าหาฝั่ง นั่นหมายถึงว่าเขาพยายามจะกลั่นกรองหาวิธีการที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่มีใครมองเห็นหรือไม่สามารถจะเห็นได้ว่าเขาจะทำอย่างไร ในการสู้กับชีวิตสู้กับปัญหาหรือสู้กับคน ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆก็ตาม เขาจะไม่เรียกร้องระดมพล หรือวิ่งขอความช่วยเหลือจากใคร แต่เขาจะยืนอยู่คนเดียวและสู้อย่างโดดเดี่ยวในสงครามทุกรสชาติของชีวิต ถ้าเขาจะชนะ เขาชนะอย่างน่ากลัวและสะเทือนใจคน ถ้าเขาแพ้ เขาจะตายคาสนามรบอย่างคนใจหินที่ไม่เรียกร้องต้องการให้ใครช่วยหามศพไปฝัง ราศีพิจิกเป็นราศีของแมงป่องหรือสัตว์มีพิษ เพราะฉะนั้น ชาวราศีพิจิกก็มีลักษณะของสัตว์ประเภทมีพิษเหล่านั้นในด้านการดำเนินชีวิตและการต่อสู้ 

สัตว์มีพิษเหล่านี้จะไม่แส่หาเรื่องไปรุกรานให้ร้ายใคร คือจะไม่วิ่งเข้าไปหาเรื่องทำใครก่อน ถ้าหากไม่บังเอิญถูกเหยียบหางหรือถูกทำร้าย และเมื่อถูกเข้าแล้วเขาจะป้องกันตัวและสู้ทันทีในลักษณะและวิธีการของสัตว์มีเขี้ยวมีพิษที่เอาตายหรือไม่ก็ตัวเองจะถูกทำลายให้ตายไป ความเด็ดเดี่ยว และความโดดเดี่ยวที่ชาวราศีพิจิกชอบนี่เอง ทำให้เขาดูเหมือนจะเป็นคนตัวคนเดียวอยู่ในโลกที่คนอื่นไม่มีวันเข้าใจ ชาวราศีตุล อาจจะไม่เคยรู้ว่าโลกนี้มีศัตรูและโลกนี้มีแต่คนที่น่ารักและควรจะรัก แต่สำหรับชาวราศีพิจิก ไม่คิดเช่นนั้น เขาไม่เคยเกลียดใคร เขาไม่เคยรักใคร เขาเป็นเพียงเขาที่ไม่ทำลายใคร และไม่ให้ประโยชน์ใคร เพราะเขามีเรื่องของตัวเอง และมีปัญหาของตัวเองที่จะต้องคิดต้องทำ โดยไม่เคยไปโยนภาระและความยุ่งยากให้แก่คนอื่น เพราะฉะนั้นเขาถือว่าทุกคนไม่ควรจะยุ่งอะไรกับเขา ทุกอย่างเป็นเรื่องของเขา เขาไม่ยุ่งกับใคร 
แต่ถ้าใครเข้าไปยุ่งกับเขา ทำอะไรกับเขาเข้า เขาไม่ยอมเป็นอันขาด 


เพราะฉะนั้น ในบางครั้งที่เขารู้ว่าเขาถูกรุกรานเรื่องส่วนตัวหรือถูกทำลาย เขาจะเป็นคนที่สามารถใช้ความคดในข้องอในกระดูกหรือเล่ห์เหลี่ยมทุกวิถีทางตอบโต้ออกมาอย่างรุนแรงได้ในทันที ทั้งๆที่โดยธรรมชาติเขาจะเป็นคนจริง ซื่อสัตย์ และเป็นคนที่คบได้ก็ตาม ถ้าเขารู้แจ้งประจักษ์จริงขึ้นมาวันหนึ่งวันใดว่าคนที่เขาคบหาหรือคนที่เขาเกี่ยวข้องเล่นไม่ซื่อกับเขาแล้ว เขาจะลงมือพยาบาทหรือล้างแค้นอย่างเจ็บปวดที่สุดในทันที ทุกวิถีทางหรือทุกเล่ห์กระเท่ห์ที่เขาจะทำได้ เหมือนงูหรือแมงป่องที่นอนนิ่งๆ เหมือนสิ่งไม่มีชีวิตนั่นแหละ ถ้าลงว่าได้เหยียบเข้าไปเมื่อใด เพื่อนจะผงกหัวและชูหางขึ้นเผชิญหน้า และฉกหมับเข้าทันที! 

ทางด้านอารมณ์ ชาวราศีพิจิกเป็นคนที่โกรธง่ายพอดู อารมณ์มักจะขุ่นได้เสมอที่มีอะไรมากระทบ ในบางครั้งเขาจึงจะชอบหาทางระงับด้วยการดื่มสักนิดหน่อย เพื่อให้ร่างกายได้รับความรู้สึกอะไรขึ้นมาใหม่ๆ และเพื่ออยู่กับตัวเอง ไม่แสดงความรู้สึกนั้นให้เป็นที่รบกวนแก่ผู้ใด เขาเกลียดการซุบซิบนินทา การพูดการคุยที่ไม่เป็นแก่นสารสาระ และการหักหลัง หรือวิธีการลอบกัดของคนอื่น เพราะฉะนั้นในการพูดของเขา เขาจะเป็นคนพูดน้อยผิดปกติ จะพูดเพียงสั้นๆ และด้วยคำพูดที่เขาเลือกแล้ว เรื่องของคนอื่นไม่เกี่ยว ถ้ามันไม่เกี่ยวอะไรกับผลประโยชน์ของเขา เขาจะเป็นคนลงมือช้าในเรื่องทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าอะไร ถ้ายังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายเข้ามาแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ แต่เมื่อถึงเวลาจวนแจเข้าแล้วเขาจะเริ่มลงมือ และเมื่อถึงเวลาเขาจะประสบความสำเร็จ 

เหมือนม้าแข่ง เขาจะวิ่งออกเป็นตัวสุดท้าย แต่จะเป็นตัวแรกที่ถึงเส้นชัยก่อน ชาวราศีพิจิกทุกคนจะเป็นคนเปิดเผย ดูง่ายหรือไม่มีลับลมคมนัย และค่อนข้างจะโผงผางในภายนอก แต่ความจริงแล้ว ชาวราศีพิจิกจะมีความลับในใจของตนที่เก็บไว้ไม่ให้คนรู้ เพราะฉะนั้นชาวราศีพิจิกจึงเป็นคนที่เชื่อได้ว่า เขาอาจจะรู้อาจจะเข้าใจทุกสิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือบุคคลที่แวดล้อมเขาอยู่ รู้ดีรู้ชั่วของทุกสิ่งและทุกคนทุกเรื่อง แต่เขาจะไม่มีวันพูดหรือไม่มีวันแสดงออกมาให้ใครรู้เป็นอันขาดว่าเขารู้เรื่องเหล่านั้น ในเรื่องของความลับแล้ว เขาจะเป็นคนราศีเดียวที่เก็บไว้ได้อย่างลึกล้ำ และมิดชิดไปตลอดชีวิต เขาไม่ใช่คนประมาท เขาไม่เคยประมาทต่อชีวิต ไม่ประมาทต่อทุกสิ่งและไม่ประมาทต่อศัตรู เพราะฉะนั้น บางครั้งดูเหมือนเขาจะเป็นคนระแวงระวังไปทุกสิ่ง ไม่ว่าจะมีอะไรหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม เขามีความสงสัย และไม่เชื่ออะไรต่ออะไรไปจนเป็นคนที่น่ากลัว นั่นคือสัญชาตญาณที่แท้จริงของเขา ทุกอย่างอยู่ในความคิด และการดำเนินชีวิตของเขา เขาจะถือว่าต้องปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดี เขาไม่เคยดูแคลนกำลังของศัตรู หรือประมาทสถานการณ์ว่ามันจะต้องดีกับเขาตลอดเวลา นั่นเป็นความคิดของเขา เป็นวิธีการของเขาในการดำเนินชีวิต 

ถ้าหากเขาเป็นชาวราศีพิจิกในด้านลบ เขาจะร้ายยิ่งไปกว่าอะไรในโลกนี้ เพราะเขาจะมีความเฉลียวฉลาดอย่างล้ำลึกในการอาฆาตพยาบาท และการทำลายคนอื่นอย่างรุนแรงและโหดร้าย อารมณ์ของเขาจะคลั่งคลักไปด้วยความไม่พอใจและการมองโลกในแง่ร้าย เขาจะเห็นคนทุกคนเป็นศัตรูไปหมด เขาจะเป็นนักหักหลัง แบล็กเมล์และเป็นสุนัขลอบกัดที่มีประสิทธิภาพและทำงานได้ผลอย่างคาดไม่ถึง หรือไม่ เขาอาจจะบ้าคลั่งไปตั้งตัวเป็นคนทรงเจ้าเข้าผี เป็นปู่เจ้าและหลวงพ่อเณรตะบักตะบวยอะไรสักอย่างที่สามารถต้มคนได้ทั่วแผ่นดิน โดยที่ทุกคนจะยอมให้เขาต้มอย่างดี 

การเงินและโชคลาภ
: ชาวราศีพิจิก มักจะประสบความสำเร็จในชีวิตอยู่เสมอ และแน่นอนเพราะเป็นคนอีกประเภทหนึ่งที่ชอบความสุขสบายในชีวิตด้วยการชอบความสุขสบายในชีวิตนี่เอง ทำให้เขาเป็นคนคล่องตัวและแสวงหาความสะดวกสบายให้แก่ชีวิต เงินมักจะไม่ขาดมือ เขารู้ดีว่าเขาควรจะหาเงินได้ทางไหนและหามันมาอย่างไร เหมือนนักล่าสัตว์ที่พอเข้าป่าไปแล้วเขารู้ดีว่าเขาจะได้เนื้อที่ตรงไหน แต่เมื่อเขาได้มันมา เขาจะจ่ายและจะใช้มันเสมอไม่อั้นหรือเกินตัวไปได้ ชาวราศีพิจิกมักจะมีเรื่องที่จะต้องทำ และมีเรื่องที่จะต้องคิดหลายๆอย่างพร้อมกันเสมอ เพราะฉะนั้น ในการแสวงหาโชคลาภและเงิน เขาจึงจะมีทางหลายทางขึ้นมาพร้อมๆกัน ขณะที่เขาพูดถึงเรื่องนี้อยู่ เขาอาจจะมีเรื่องที่เป็นผลพลอยได้ตามมาทันที นั่นก็หมายถึงเงินอีกนั่นเอง 

ในทันทีที่เขามองเห็นเงินและหวังว่าจะได้เงินที่ไหนสักแห่งหนึ่งหรือก้อนหนึ่ง เขาก็จะรีบใช้เงินก้อนนั้นทั้งหมดล่วงหน้าไปก่อนทันที ถ้าไม่มี เขาก็จะกู้ยืมเอามาใช้เสียก่อนจนหมด จากนั้น ถ้ามันได้มา เขาก็จะนำมันมาใช้หนี้พร้อมทั้งดอก เขาจะใช้จ่ายเงินเกินความสามารถที่จะหาได้อยู่เสมอเป็นประจำ ถ้ายิ่งยากยิ่งจนเท่าใด ชาวราศีพิจิกก็ยิ่งจะพยายามทำตัวให้สุขสบายยิ่งขึ้นเท่านั้น เฉพาะเกี่ยวกับบ้านและความสุขภายในบ้าน เขาจะต้องพยายามทำให้มีให้ได้ เขาจะไม่แสดงออกให้เห็นเป็นอันขาดว่าเขายากจนหรือทุกข์ร้อน 

ชาวราศีพิจิก เป็นคนที่มีความสามารถและมีโอกาสในทางทำมาหากินได้มากมายหลายชนิด เฉพาะอย่างยิ่งราศีพิจิกหมายถึงเคมีภัณฑ์และอาชีพเกี่ยวกับเคมี ยารักษาโรค การประกันภัย การต้มกลั่น เครื่องยนต์ไอน้ำ เครื่องยนต์กลไก เหมืองแร่ในทะเล การสร้างเขื่อน หรือการค้าเกี่ยวกับน้ำและทะเล กิจการเดินเรือ ถ้าเป็นงานที่เกี่ยวกับวิชาความรู้หรือเป็นนักวิชาการแล้ว มีงานหลายชนิดที่เหมาะสมแก่ชาวราศีพิจิก ได้แก่งานการสืบสวนและการเป็นนักสืบ งานด้านวิเคราะห์และการหาข่าวกรอง งานด้านจารกรรม 

เฉพาะงานทางด้านการค้นคว้าหรือวิจัยแล้ว ชาวราศีพิจิกจะมีความสามารถเป็นอย่างสูงในการวิจัยเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ การวิจัยเกี่ยวกับจิตและสภาพจิต หรือเรื่องที่อยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจของมนุษย์ เรื่องที่ลึกลับซับซ้อนหรือเรื่องเกี่ยวกับคนตายและความตาย การค้นคว้าเกี่ยวกับยารักษาโรคหรือวัตถุธาตุในทะเลและมหาสมุทร การนำวัตถุธาตุที่ตายแล้ว หรือถูกแปรสภาพจากการไม่มีชีวิตแล้วขึ้นมาทำประโยชน์ หรือแสวงหาประโยชน์จากมัน จะทำให้เขามีรายได้และมีโชคลาภอย่างไม่คาดหมาย ในการค้า เขาจะเป็นคนซื้อเร็วขายเร็ว สินค้าของเขาจะไม่มีสินค้าที่นอนรออยู่ในโกดังเป็นแรมปี หรือเป็นของหนักที่ต้องใช้เวลาสำหรับการซื้อขาย เขาต้องการสินค้าประเภทที่สามารถจะเปลี่ยนมือได้ในทันทีทันใด และทำเงินให้เขาได้ในในไม่ช้า การลงทุนในระยะยาวของเขาจึงไม่ค่อยจะมีหรือไม่เหมาะสำหรับชาวราศีพิจิก

สุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ
: ราศีพิจิก หมายถึงกระดูกต่างๆได้แก่ กระดูกเชิงกราน อัณฑะ ทวารหนัก กระดูกบั้นเอว กระดูกเซครัม(ส่วนหนึ่งของกระดูกเชิงกราน) ลำไส้ใหญ่ และกระเพาะปัสสาวะ อาการของโรคสำหรับราศีพิจิกที่จะเป็นกันมากก็คือริดสีดวงทวารหนัก แผลทะลุ แผลต่างๆ ทวารหนักอักเสบ ประสาทพิการ โดยเฉพาะราศีพิจิก เป็นราศีที่บ่งถึงอวัยวะสืบพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เพราะฉะนั้น โรคต่างๆที่เกิดขึ้นกับชาวราศีพิจิกจึงจะเป็นโรคที่มีสาเหตุเกี่ยวด้วยอวัยวะเพศ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง นอกจากจะเป็นเรื่องของอวัยวะเพศแล้ว สำหรับผู้หญิงราศีพิจิกเน้นไปถึงรังไข่และมดลูกด้วย เฉพาะผู้ชายมีความหมายถึงกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมาก 

อาการของโรคที่เกิดขึ้นจะมากน้อยเพียงใด หรือเกี่ยวกับอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับดวงดาวอื่นๆที่มีส่วนสำแดงอิทธิพลต่อราศีพิจิกด้วย ในกรณีที่กล่าวกันอย่างกว้างๆแล้ว โรคภัยไข้เจ็บของชาวราศีพิจิกจะเกิดขึ้นจากส่วนต่างๆของร่างกายดังที่กล่าวมานี้ สำหรับอาการของโรคที่จะเกิดขึ้นกับส่วนต่างๆเหล่านั้น ในความหมายของดาวอังคารซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำราศี ก็จะบ่งถึงลักษณะและอาการอักเสบ การตกเลือด เนื้องอก โรคติดเชื้อและโรคติดต่อต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโรคส่วนมากที่เป็นง่ายและติดง่ายที่สุดคือกามโรคหรือโกโนเรีย
 

ราศีธนู


ราศีธนู
ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม ถึงวันที่ 13 มกราคม



“ไม่ว่าปีใดๆคนราศีนี้อยู่กับความจริง ชอบพูดจริง หนักแน่น ตัดสินใจช้า แต่รอบคอบใจกว้าง เชื่อมั่นในตนเอง และมีคุณธรรมสูง

ต้องรู้เสียก่อนว่า ราศีธนูท่านจัดให้เป็นราศีธาตุไฟอีกราศีหนึ่งต่อจากราศีเมษและราศีสิงห์เป็นธาตุไฟสุดท้าย หรือเรียกว่าเป็นราศีธาตุไฟปลายธาตุ หรือราศีธาตุไฟราศีสุดท้ายของจักรวาล ราศีธนูเริ่มต้นตั้งแต่องศาที่ 241 จากเวอร์นอนอิควิน็อกซ์ที่ต้นราศีเมษไปจนถึงราศีที่ 270 ของขอบฟ้า ตลอดเวลาสามสิบวันจากวันที่ 14 ธันวาคมเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 13 มกราคมของทุกๆปี อาทิตย์จะโคจรผ่านราศีนี้ตั้งแต่องศาที่ 241 ไปจนถึงองศาที่ 270 วันละประมาณ 1 องศาจนครบ 30 องศาหรือครบ 30 วันพอดี

ผู้ที่เกิดในระยะที่อาทิตย์โคจรผ่านองศาเหล่านี้หรือในราศีนี้จะได้รับอิทธิพลจากพลังงานของดวงอาทิตย์ตั้งแต่ลืมตาเกิดเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นผู้ที่เกิดในระยะเวลาดังกล่าวนี้ถือกันว่าเป็นชาวราศีธนู ความหมายของราศีธนูที่มีต่ออิทธิพลของเจ้าชะตา นอกจากจะใช้อิทธิพลและพลังงานของอาทิตย์ที่โคจรอยู่ในราศีแล้ว โหรโบราณได้กำหนดเอาความสำคัญของธาตุประจำราศี คือธาตุไฟ มาประกอบการตัดสินพิจารณาคุณสมบัติหรืออุปนิสัยใจคอของเจ้าชะตา ยิ่งไปกว่านั้นราศีธนูเป็นราศีที่ถูกจัดให้มีดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าองค์หนึ่งเป็นเจ้าของทำหน้าที่ปกครองหรือเป็นเจ้าหน้าที่และกรรมการบริหารราศีผู้มีอำนาจเต็มอีกดาวเคราะห์หนึ่ง ได้แก่ ดาวพฤหัสบดีหรือเลข 5

แล้วท่านก็เอาความหมายของพฤหัสบดีหรือเลข 5 นี้เข้าไปประกอบการทำนายเข้าอีกชั้นหนึ่ง แล้วก็ทายออกมาถึงลักษณะอุปนิสัยใจคอและความเป็นไปในวิถีชีวิตของเจ้าชะตา ก่อนที่จะทำความเข้าใจในอิทธิพลของราศีหรือคุณสมบัติของคนที่เกิดในราศีธนูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่จะต้องรู้และทำความเข้าใจก่อนอื่นก็คือคุณสมบัติของธาตุประจำราศี คือ ธาตุไฟ

อีกเช่นเคย คำว่าไฟ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจอะไรมากนัก เพราะไฟก็คือความร้อนและพลังงานความร้อนนั่นเอง ในทางวิชาการโหราศาสตร์ได้นำเอาความหมายของความร้อนและพลังงานไปในรูปของนามธรรม อันมีความหมายเกี่ยวกับชีวิต วิญญาณและจิตใจ ซึ่งอาจจะพอสรุปได้ดังต่อไปนี้

"ธาตุไฟมีความหมายถึงความเข้มแข็งและความเปล่งปลั่งของจิตใจและพฤติกรรมที่มีลักษณะโน้มเอียงไปทางที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีอิสรภาพและรักความเป็นอิสระไม่ขึ้นกับสิ่งใด และไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใด กล้าหาญและมีความทะเยอทะยาน ก่อให้เกิดความมุ่งมาดปรารถนาไม่สิ้นสุด ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อแท้ย่อย่น บ่งถึงความทะนงในตนเอง การจะก้มหัวให้ใครต่อใครมาชี้นิ้วบงการว่าอ้ายนั่นเป็นอ้ายนี่ อ้ายนี่เป็นอ้ายนั่น หรือจะให้คอยสะเออะสะอ๋องสะแอ่งตามใจพระเดชพระคุณท่านไปตลอดกาลนั้นอย่าได้หมาย ถ้าจะลงมือคิดอ่าน หรือกระทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องคำนึงถึงความเอิกเกริกหรูหราเอาไว้ก่อน การที่จะดำเนินชีวิตประเภทคอยเที่ยวจับปูจับหอยหากินนั้น จะไม่ทำเด็ดขาด ชอบการเป็นผู้นำ และนำหน้าคนอื่น ลงมือก่อนคนอื่นในทุกสิ่ง ไม่ยอมรับเอาความคิดเห็นของผู้อื่นและการชี้แนะจากผู้อื่น จะทำตามความพอใจของตัวเองตามที่ตนคิด และตามที่ตนเห็น การพูดจาปราศรัยกับคนอื่น จะเริ่มต้นด้วยการตั้งปัญหาหรือมีข้อขัดแย้ง ให้มีการโต้แย้งกันขึ้น และก็ชอบการโต้แย้งนั้นด้วย"

นี่คือลักษณะของราศีธาตุไฟ นอกจากจะเอาลักษณะของราศีธาตุไฟประจำราศีมาเป็นหลักแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่นำมาใช้เป็นความหมายสำหรับการทำนายคนในราศีนี้อีกด้วยก็คือดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าที่ถูกจัดให้ทำหน้าที่ครอบครองหรือเป็นกรรมการผู้จัดการราศีคือดาวพฤหัสบดีหรือเลข 5

พฤหัสบดีหรือเลข 5 ในวิชาโหราศาสตร์ หมายถึง :-

"ความเติบโต การแผ่ขยายและการพัฒนาจ้องจังหวะที่ดีและคอยจังหวะที่ดี เข้าไหนเข้าได้ พอใจในการคบหาสมาคมกับผู้อื่น การกระทำและการแสดงออกที่มีลักษณะพอเหมาะพอดี มีลักษณะของอุดมคติ การกระทำและการแสดงออกที่เต็มไปด้วยเหตุด้วยผล ความก้าวหน้าและการพัฒนาตัวเองและการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง มีน้ำจิตน้ำใจต่อผู้อื่น ใจบุญใจกุศล ชอบการบริจาคและเผื่อแผ่ จริงใจ เมตตาปรานี ยุติธรรม เป็นที่เชื่อถือได้และวางใจได้ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มองโลกในแง่ดี ร่าเริงเบิกบาน มีหิริโอตตัปปะ มีวิญญาณของการป้องกันปกป้อง ใจกว้าง เยือกเย็น เอาจริงเอาจัง มีความเข้าใจ และมีความรู้ในหลักการและวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของสังคม แต่ถ้าในด้านลบหรือด้านร้าย พฤหัสบดีจะให้ความหมายไปถึงความสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย ไม่สงบ ลุกร้อนลุกลน หลอกลวง ผัดวันประกันพรุ่ง ฟุ้งซ่านเกินขอบเขตและไม่มีเหตุไม่มีผล ไม่คำนึงถึงหลักการและตัวบทกฎหมาย จะทำหรือจะคิดใดๆ มักจะเกินความจริงและเป็นไปไม่ได้ มายาสาไถย ถือว่าตัวเองเท่านั้นเป็นผู้ที่ถูกต้องแต่ผู้เดียว เสแสร้งแกล้งทำ เพ้อฝันใช้อำนาจหน้าที่และหลักการในทางที่ผิด ชอบอวดโอ้ทำบุญเอาหน้า แสดงตัวเองมากไปกว่าคุณสมบัติที่ตนมีอยู่ มีลักษณะของส้มโอที่โตแต่เปลือก"

เมื่อได้นำคุณสมบัติของธาตุประจำราศีและดวงดาวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการประจำราศี รวมถึงคุณสมบัติของอาทิตย์ที่เป็นตัวพลังงานเข้าด้วยกันแล้ว บุคคลที่เกิดในราศีธนูหรือตัวราศีธนูเอง นักโหราศาสตร์โบราณก็รวบรวมเอาคุณสมบัติเหล่านั้นทั้งหมดมาไว้ สำหรับให้ชาวราศีธนูพิจารณาคุณสมบัติของตัวเองดังต่อไปนี้

ในบรรดาราศีทั้ง 12 จากราศีเมษเป็นราศีที่หนึ่งของจักรภพ ราศีธนูเป็นราศีที่ 9 ของจักรภพ ราศีที่ 9 ของจักรภพหมายถึง ปณิธานอุดมการณ์ ชวนญาณหรือความสามารถที่จะหยั่งรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ความยุติธรรม ความคิดทางด้านศาสนาและปรัชญา การพิมพ์ การโฆษณา การเดินทางไกล ต่างประเทศ สถาบันการศึกษาชั้นสูง ราศีธนู เป็นราศีเพศชาย มีคนถือธนูเป็นสัญลักษณ์ ส่วนต่างๆของร่างกาย หมายถึงโคนขาตะโพก เส้นประสาท

รูปร่างลักษณะ
: ถ้าหากว่าไม่ถูกบีบหรือถูกเบียนด้วยบาปเคราะห์อื่นๆ หรือมีดาวที่มีอิทธิพลอื่นในดวงชะตามาบีบ ชาวราศีธนูจะเป็นคนมีรูปร่างดี เติบโตได้สัดส่วนและค่อนข้างจะสูงมากกว่าเตี้ยหรือสันทัดคน หน้าผากกว้าง ขนคิ้วหนาและขึ้นไปสูง จมูกโด่ง ดวงตาสดใส รูปร่างท่าทางที่แสดงออกมีเสน่ห์ ท่าทางสง่า ผ่าเผย ว่ากันตามจริงแล้วเป็นรูปร่างที่เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์หล่อเหลาเอามากทีเดียว

สภาพของจิตใจ
: โดยที่ราศีธนูเป็นราศีธาตุไฟ ผู้ที่เกิดในราศีธาตุไฟย่อมจะได้รับอิทธิพลของธาตุประจำราศี ซึ่งทำให้เป็นคนมีลักษณะและสภาพจิตใจเป็นไปตามความหมายของธาตุไฟ อย่างน้อยก็คือความกระตือรือร้นต่อชีวิต มีความกล้า องอาจ และมุ่งทะยานไปข้างหน้าไม่มีหยุด

ธาตุไฟ บงการให้ชีวิตเต็มไปด้วยความอยากและทะเยอทะยาน มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทะนงองอาจต่อชีวิตและต่อสถานการณ์ทุกอย่างที่ตนเผชิญหน้า รักอิสรภาพ แสวงหาอิสรภาพ ไม่ยอมขึ้นกับใคร ทั้งร่างกายและจิตใจเต็มไปด้วยพลังงาน ความกระตือรือร้น ไม่ยอมหยุดนิ่งต่อการแสวงหาด้วยความเชื่อมั่นในตนเองเป็นหลัก ไม่ว่าดีหรือชั่ว ไม่ว่าดีหรือเลวที่จะต้องเผชิญ ชาวราศีธนูจะมีความสามารถเป็นพิเศษในการหยั่งและชั่งตรองว่าอันไหนควรไม่ควร อันไหนจะต้องสู้ต้องทำหรือไม่ต้องสู้ต้องทำ หลังจากพิจารณาพินิจพิเคราะห์จนถึงที่สุดแล้ว ก็จะมีการตัดสินใจลงไป

ราศีธาตุไฟมีสามราศีคือ เมษ สิงห์ และธนู ในขณะที่ไฟเมษและสิงห์ออกจะเร่าร้อนและโลดโผนโจนทะยานในยามที่จะต้องคิดต้องสู้ ไฟราศีธนูจะไม่รีบร้อนบุ่มบ่ามถึงขนาดนั้น เพราะเป็นราศีปลายธาตุ ซึ่งเป็นราศีที่มีความสามารถทางด้านการปฏิบัติสูงกว่า เพราะฉะนั้นไฟราศีธนูจึงเป็นไฟเงียบที่ชอบจะสุมขอนและเผาเงียบกว่าไฟในราศีทั้งเมษและสิงห์ การคิด การตัดสินใจของไฟในราศีธนูค่อนข้างจะช้าและสุขุมรอบคอบก่อนจะลงมือ ทุกครั้งที่จะคิดตัดสินใจหรือจะลงมือทำอะไรลงไป ต้องคิดเสียก่อน คิดมาก อย่างหนักหน่วงและลึกซึ้ง คิดแล้วจึงจะทำ เพราะฉะนั้น การลงมือหรือการตัดสินใจของชาวราศีธนูจึงค่อนข้างช้า หนักแน่น ก่อนที่จะลงมือแต่ละครั้งจะต้องผ่านการวางแผนแล้วอย่างรอบคอบ คิดหน้าคิดหลังแล้วอย่างรอบคอบเสียก่อน ไม่เสี่ยงและไม่บุ่มบ่าม หรือยอมตายเอาดาบหน้า เหมือนไฟในสิงห์และเมษ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว ในฐานะที่ราศีธนูเป็นราศีเพศชาย ชาวราศีธนูจะไม่รีรอต่อการที่จะแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือการพูด จะพูดและจะกระทำออกมาอย่างไม่ลังเลในทันที หลักการของชาวราศีธนูก็คือ อยู่ด้วยความจริงและพูดความจริง และจะพยายามยืนยันความจริงและอยู่ด้วยความจริงนั้นจนวาระสุดท้าย แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าผลของมันที่จะติดตามมาเพราะการยอมตายกับความจริงนั้น จะให้ผลร้ายหรือมีโทษในตอนสุดท้าย เขาก็จะยังยืนยันความจริงอันนั้นอยู่ เขาจะไม่ตระหนักหรือไม่ยอมเสียเวลาคิดว่าใครบ้างจะพอใจหรือไม่พอใจเขา หรือไม่เมื่อเขาคิดแล้วและตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพูดหรือจะต้องแสดงออกซึ่งความจริงนั้น ชาวราศีธนูในด้านบวก ถือได้ว่าเป็นคนมีการศึกษาที่ดี มีวัฒนธรรมที่ดีและเป็นคนจริงที่ยอมรับได้ 


บุคลิกลักษณะและอุปนิสัย
: โดยคุณภาพของพฤหัสบดีของราศีธนู สิ่งแรกจะบันดาลให้ชาวราศีธนูแสดงออกและดำเนินชีวิตก็คือความเป็นคนใจกว้าง มีความเชื่อมั่นในความคิดอ่านของตนเองและการทำงานของตนเอง มีจิตใจอันเต็มไปด้วยคุณธรรมและสูงส่งด้วยคุณธรรม โดยเหตุนี้โบราณจึงถือกันว่าชาวราศีธนูเหมาะสำหรับการเป็นผู้อนุศาสน์ เป็นครูอาจารย์ เป็นผู้ทรงคุณธรรมและคุณวุฒิที่ควรแก่การนับถือ ในชีวิตของชาวราศีธนู จะมีชีวิตและความเป็นอยู่ด้วยความรู้และคุณธรรม เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเมตตาต่อผู้อื่น อยู่ด้วยความเที่ยงธรรมและโดยธรรม 

ด้วยคุณธรรมและคุณสมบัติของพฤหัสบดี ไม่เพียงแต่จะมีความใจกว้างและเมตตาธรรมและความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อผู้อื่นเท่านั้นก็หาไม่ พฤหัสบดี หมายถึงการแผ่ขยายและความเติบโต โดยแรงกระตุ้นของไฟอันเป็นธาตุประจำราศี จะช่วยให้ชาวราศีธนูเต็มไปด้วยความสามารถในการแผ่ขยายและสร้างความเติบโตทั้งทางด้านทรัพย์สินและปัญญา ตลอดจนกระทั่งมิตรและสังคม เพราะฉะนั้น ชาวราศีธนูจึงหมายถึงผู้ที่มีความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงด้วยคุณธรรมอันเกิดมาจากความเร่าร้อนของไฟเป็นแรงกระตุ้นและการทำหน้าที่ของพฤหัสบดีในฐานะผู้แผ่ขยายกว้างและเติบโตในทุกสิ่งทุกงานที่พฤหัสบดีคิดวางแผนย่อมจะนำไปสู่ความกว้างและความสมบูรณ์ไพศาล 

ในด้านความรู้ความฉลาด ชาวราศีธนูจะเป็นคนคงแก่เรียนคนหนึ่ง และอาจจะไม่ต้องเรียนอะไรมาก หรืออัศจรรย์ไปกว่าคนอื่นก็หาไม่ แต่อาศัยเชาวน์ปัญญาที่มีอยู่เป็นพื้น ชาวราศีธนูจะสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวหรือเหตุการณ์ต่างๆได้ในทันที และสามารถจะดูดกลืนเอาความคิดและไอเดียใหม่ๆมาใช้ได้ในทันทีทันใด ปัญหาต่างๆที่แวดล้อมเข้ามาในชีวิตนั้น ไม่ว่ามากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม ชาวราศีธนูจะสามารถมองเห็นปัญหาและทะลุปรุโปร่งไปในทันที พฤหัสบดีเป็นตัวแทนของความดีและกุศลธรรม เพราะฉะนั้นชาวราศีธนูที่เกิดมาภายใต้อิทธิพลของดาวพฤหัสบดี จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อกุศลกรรมและเพื่อคุณธรรมนานาประการด้วย 

เพื่อคุณธรรมและเพื่อกุศลกรรม ชาวราศีธนูจะไม่ยอมอยู่เพื่อความอยุติธรรม และการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆอันมีลักษณะที่เป็นความชั่วความเลวหรือเป็นอกุศล เขาจะสู้หรือพยายามขัดขวางความอยุติธรรมและความชั่วนั้นทุกวิถีทาง ด้วยความกล้าหาญและด้วยความเชื่อมั่น เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความถูกต้องและเพื่อความสมบูรณ์ขึ้น 

แต่ถ้าหากเขาเกิดภายใต้อิทธิพลของราศีธนูในด้านลบหรือดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาเสีย ทุกอย่างจะเป็นไปในลักษณะตรงข้าม เพราะเขาจะใช้ความรู้ความเฉลียวฉลาดของเขาในการสร้างความไม่เป็นธรรมขึ้น เขาจะทำทุกอย่างเพื่อแผ่ขยายผลประโยชน์และความถูกต้องให้แก่ตัวเขาแต่ผู้เดียว เขาจะพยายามใช้ความน่าเชื่อถือและความน่าเคารพบูชา หรือวิชาต่างๆที่เขามีอยู่ เพื่อทำลายคนอื่น เพื่อหักหลังคนอื่น และใช้เล่ห์กระเท่ห์เพทุบายทุกอย่างเพื่อตัวเขาเอง เขาจะเป็นคนประเภทปากว่าตาขยิบ หรือประเภทมือถือสากปากถือศีล 
ในทางการเงินหรืออการประกอบอาชีพ แม้ว่าเขาจะเป็นคนร่ำรวย แต่เขาจะใช้จ่ายมันไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย ถ้าเขาจะหมุนเงินหรือหาเงินเพิ่มเติม เขาจะใช้วิธีการอันสุจริตใดๆไม่ได้ นอกจากวิธีการของเล่ห์เหลี่ยมทั้งๆที่ไม่ควรจะทำ เขาก็ทำ ถ้าหากเขาเกิดมาภายใต้อิทธิพลในด้านบวกแล้ว ส่วนหนึ่งของชีวิตเขาจึงมักจะทำเพื่อคนอื่นเสมอ 

ไม่ต้องดูอื่นไกล แม้แต่ชีวิตในครอบครัวของเขาเอง สำหรับญาติพี่น้องที่ใกล้ชิด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยเอาใจใส่มากนัก หรือจะไม่แสดงความรักอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก เขาจะดูอยู่ห่างๆ จะให้คำปรึกษาแนะนำหรือให้การช่วยเหลือก็เป็นบางครั้งบางคราว แต่สำหรับคนอื่นแล้วเขาจะเป็นคนใจกว้าง และให้ความช่วยเหลือด้วยความกระตือรือร้น เฉพาะเพื่อนต่างเพศของเขา เขาจะแสดงความมีไมตรีจิตและให้ความช่วยเหลืออย่างดี 

ชีวิตของเขาดูเหมือนจะถือว่าทุกคนในโลกนี้คือญาติของเขาทั้งสิ้น เขาไม่มีญาติพี่น้องเฉพาะที่คลานตามกันมาเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ถือความสำคัญของญาติพี่น้องมากนัก แต่สำหรับกับลูกแล้ว เขายินดีที่จะใช้จ่ายทุกอย่างเพื่อลูกของเขาอย่างไม่เสียดาย ถ้าเขาไม่มีลูก เขาก็จะใช้จ่ายเงินให้แก่สถาบันการศึกษา หรือองค์การเกี่ยวกับศาสนา หรือสนับสนุนการศึกษาค้นคว้าในระดับสูง ชีวิตภายในบ้านของชาวราศีธนู ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จมากนัก ชาวราศีธนูโดยมากจะไม่ยอมปล่อยชีวิตในบ้านหรือคนในบ้านให้ได้รับอิสระมากนักทั้งๆที่เขาเองอาจจะเป็นคนรักอิสรภาพและเสรีภาพ แต่เขาก็จะปฏิเสธสิ่งนี้สำหรับคนในบ้านหรือในครอบครัว 


ชีวิตการแต่งงานของชาวราศีธนู มักจะไม่ยั่งยืนไม่ว่าหญิงหรือชาย เพราะก่อนที่จะลงเอยเป็นเรื่องเป็นราวได้ เขาจะต้องผ่านความรักหรือคู่ครองมาก่อนอย่างน้อยไม่คนก็สองคนขึ้นไป และเมื่อเขาพบคนสุดท้าย เป็นอันว่าเขาได้เลือกแล้วและเหมาะสมที่สุดแล้ว นั่นแหละจะทำให้เขาจบสิ้นการแสวงหาทางด้านคู่ครองและความรัก เขาจะชอบอย่างมากในการเดินทางท่องเที่ยวหรือการเดินทางในระยะไกล เพื่อนฝูงที่จะเป็นมิตรแท้หรือเพื่อนตายของเขา ก็เช่นเดียวกับคนที่ร่วมมือกับเขาทำมาหากินมักจะเป็นชาวต่างประเทศเสียมากกว่าคนพื้นเพเดียวกัน 

สำหรับการศึกษา เขามักจะมีโอกาสศึกษาในระดับสูงหรือในต่างประเทศ ไม่ว่าเขาจะเกิดมาค่อนข้างจนและฐานะไม่อำนวยก็ตาม แต่วันหนึ่งเขาก็ปีนป่ายไปสู่สถาบันการศึกษาที่อยู่ในระดับสูงด้วยตัวเขาเอง หรืออย่างเลวที่สุด เขาก็สามารถจะเรียนรู้ได้เท่ากับคนที่จบจากสถาบันสูงๆด้วยตัวของเขาเอง เขาไม่เพียงแต่จะชอบคนอื่นหรือมีเพื่อนฝูงมากเท่านั้น ในทำนองเดียวกันคนอื่นก็พอใจที่จะมาคบกับเขาหรือชอบคบกับเขา การยิ้มที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ใจและการเป็นคนเฉลียวฉลาดเจ้าปัญญา หรือความเป็นผู้ทรงภูมิของเขาจะเป็นตัวชักนำหรือเป็นสื่อที่ดึงเพื่อนฝูงและมิตรสหายมาคบกับเขา ชีวิตของเขาจะไม่ขาดเพื่อนและมีแต่ความอบอุ่น 
เพื่อนที่ว่านั้นส่วนมากจะเป็นเพื่อนที่นิยมการใช้ปัญญามากกว่าที่จะเป็นเพื่อนประเภทกินไหนนอนนั่น เพราะว่าชาวราศีธนูมักจะไม่ค่อยใช้ชีวิตเหลาะแหละหรือปล่อยให้เป็นไปตามลมตามแล้ง เฉพาะความสนุกสำราญที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย เขาจะไม่สนใจมากนัก หรือจะไม่เอาใจใส่เลย ถ้าหากเขาจะใช้เวลาว่างเพื่อความสนุกสำราญก็คือการอยู่กับสัตว์และเลี้ยงสัตว์ 

เขาเป็นคนรักสัตว์อย่างมาก เฉพาะสัตว์ใหญ่ๆ เช่น ม้า หรือสุนัข เขายอมเสียเวลาและเสียเงินเพื่อสิ่งเหล่านี้มากกว่าร้านเหล้าหรือภัตตาคาร ถ้าหากใครจะไปสนทนาหรือพูดคุยกับเขาและนำเรื่องเหล่านี้ไปเป็นเนื้อหา เขาจะคุยได้เป็นวันๆทีเดียว นั่นแหละหนทางการผูกมิตรกับเขา 

ชาวราศีธนู เหมาะสำหรับเป็นผู้บริหารที่ใช้ทั้งความสามารถในการบริหาร การปกครองและใช้สติปัญญาไปพร้อมๆกัน ซึ่งแตกต่างกับคนในบางราศีซึ่งอาจจะมีเพียงสติปัญญา แต่ในทางปฏิบัติทำไม่ได้ดีนัก บางคนอาจจะดีในทางปฏิบัติแต่ขาดสติปัญญา ตรงข้ามกับชาวราศีธนู ซึ่งมีคุณสมบัติพร้อมถึงสองประการสามารถที่จะทำงานได้ในสองด้านไปพร้อมๆกัน จากผลของการศึกษาเล่าเรียนและการอบรมหรือภูมิหลังที่ได้รับมา จะทำให้ชาวราศีธนูมีหลักการของตนเองแน่นอนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีอุดมการณ์ของตนอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการมีชีวิตและอยู่กับสังคม ชาวราศีธนูจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหลักการหรือแนวคิดที่ได้อบรมฝึกฝนมา สมมติว่าเขาบวชเรียนมาเป็นเจ้าคุณ เขาได้เรียนรู้ถึงหลักธรรมของศาสนามาอย่างไร เขาก็จะยึดมั่นถือมั่นในความคิดและหลักการนั้น อย่างไม่ยอมให้อะไรมาเปลี่ยนแปลงเขาได้ ตรงข้ามเขาจะพยายามศึกษาเพิ่มเติมความรู้และความชำนาญในหลักการนั้นทวียิ่งขึ้นไป เช่นเดียวกับบางคนที่จบกฎหมายและเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นมา เขาจะไม่ยอมหยุดยั้งในการเรียนรู้และเพิ่มเติมความรู้และวิชาการเหล่านั้นไปจนกระทั่งเขาแก่เฒ่าและจะยึดมั่นถือมั่นในหลักการและวิชาการที่เขาได้เล่าเรียนมานั้นต่อไปและตลอดไป 

ในการดำเนินชีวิต เขาจึงมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนอาชีพ ไม่เปลี่ยนวิธีการและไม่เปลี่ยนเป้าหมาย เขาจะใช้ความรู้และวิชาของเขาขยับขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อจะไปรอรับผลประโยชน์ที่จะมาถึง ชาวราศีธนู ความจริงไม่ใช่คนงอมืองอเท้า แต่เป็นคนสู้ที่พยายามอย่างยิ่งที่จะเอาชนะอุปสรรคอยู่เสมอทุกลมหายใจ 

แต่วิธีเอาชนะของเขาผิดกับคนราศีอื่น เช่นคนราศีเมษและสิงห์ตรงที่ว่าคนในราศีทั้งสองนั้นพยายามที่จะสำแดงอำนาจและความสามารถข่มคนอื่นเพื่อให้เกิดการยอมรับและเกรงกลัว แล้วก็ฉวยโอกาสเป็นผู้นำหรือเป็นผู้ควบคุมผู้อื่นหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สำหรับคนราศีธนูจะฉวยโอกาสเหมือนกัน เอาชนะเช่นเดียวกัน ไม่ยอมถอยเช่นเดียวกัน แต่วิธีการของชาวราศีธนู จะไม่ใช้อำนาจ จะไม่แสดงความสามารถหรือข่มขู่เอาชนะเพื่ออยู่เหนือสถานการณ์ แต่จะเตรียมตัวไปเรื่อยๆอย่างพร้อมเพรียง เมื่อโอกาสมาถึง เขาก็จะเข้าไปรับโอกาสอันนั้น หรือสวมเข้ากับจังหวะที่โอกาสนั้นให้ทันที เขาจึงไม่มีอันตรายหรือไม่มีศัตรู 
ชัยชนะของเขาเป็นชัยชนะที่ทุกคนยอมรับและไม่ครหา เพราะฉะนั้น ถ้าหากชาวราศีธนูจะต้องการเอาชนะอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาจะไม่บุ่มบ่าม แต่จะคิดแล้วคิดเล่า หาจังหวะและช่องทาง เมื่อเขามองเห็นช่องทาง เขาก็จะเตรียมตัว เรียนรู้ และทำตัวให้เหมาะสมเพียงพอที่จุดมุ่งหมายที่เขาต้องการจะเข้าไปถึงนั้น จำเป็นจะต้องยอมรับเขาและให้ความเหมาะสมแก่เขา โดยที่คนอื่นเทียบไม่ได้และไม่สามารถจะแย่งได้ และเมื่อเขาได้มาแล้ว ทุกคนจะต้องชื่นชมและก้มหัวให้ว่าเขาเท่านั้นเป็นผู้ที่เหมาะที่ควร 

ชีวิตของเขาก็หักพังยาก เพราะเขาสู้ชนิดให้ทุกคนยอมรับนี่เอง เช่นเดียวกับคนในราศีอื่นๆ ชาวราศีธนูหากเกิดใต้อิทธิพลของราศีในด้านลบ หรือในดวงชะตาได้รับอิทธิพลร้ายจากดาวเคราะห์อื่นๆเบียดเบียนอยู่ เขาก็ยากที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเขาจะใช้ความรู้และความสามารถไปในทางตรงข้ามกับชาวราศีธนูในด้านดี นิสัยใจคอและพฤติกรรมของเขาบางครั้งดูยากมาก กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์และเจ้าบทบาทอย่างน่าเกลียด 

ในการกระทำและการดำเนินชีวิต จะขาดยุทธวิธีหรือความเฉลียวฉลาด ที่ร้ายที่สุดก็คือชอบยกย่องตัวเองและสำคัญตัวเองผิดอย่างถึงขนาด ถ้าจะพูดถ้าจะทำ ก็มักจะแสดงเขื่อง พูดและทำออกมาเกินความเป็นไป และไม่มีความเป็นจริงอยู่ ไม่อายต่อการโอ้อวดหรือการสำแดงอภินิหาร อาจจะให้คำมั่นสัญญาหรือรักษาสัญญาได้ร้อยแปดกับคนอื่น แต่จะไม่เคยปฏิบัติเลย บางทีทั้งการพูดและการกระทำนั้น มักจะพูดและกระทำเพื่อทำลายคนอื่นอย่างไม่ไว้หน้า ซึ่งก่อให้เกิดศัตรูและความเกลียดชังจากคนอื่นและล้มเหลวในที่สุด ทางที่จะแก้ไขมีอยู่ทางเดียวคือพยายามมองข้อบกพร่องเหล่านี้ และแก้ไขมันเสีย ถ้าหากไม่แก้ไขและไม่พยายามศึกษาตัวเองให้ถูกต้อง ชีวิตจะประสบความล้มเหลวอย่างน่าเสียใจทีเดียว 

สุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ
: โหรโบราณกำหนดให้ราศีธนู เป็นราศีที่บ่งถึงส่วนต่างๆของร่างกายในส่วนกระดูกขา สะโพก และบริเวณก้น โรคสำหรับราศีธนูได้แก่ โรคเกาต์ อัมพาต ชักกระตุก กระดูกสะโพกพิการ อาการของโรคที่เกิดจากพฤหัสบดีสำหรับราศีธนูที่จะต้องระวังอย่างมากก็คือโรคที่เกี่ยวกับเนื้อและไขมัน เส้นโลหิตแดง 

เฉพาะโรคของความอ้วนหรือเกิดจากความอ้วนอันได้แก่ไขมันและเลือด ชาวราศีธนูจะเป็นง่ายและมีโอกาสเป็นมาก เพราะฉะนั้นจะต้องระวังอาหารการกิน การกินอาหารที่ไม่บันยะบันยัง หรือการติดรสอาหารจนกินไม่เป็นเรื่องเป็นราวจะทำให้ชาวราศีธนูเป็นคนอ้วนและเต็มไปด้วยไขมันมาก การออกกำลังตามเหมาะตามควรหรืออย่าพยายามมีชีวิตอยู่ให้เป็นสุขสบายจนเกินไปจะช่วยได้มาก 

เพราะตามปกติ ชาวราศีธนูนั้นมักจะชอบสบายเป็นขุนนางมากเกินไป จะไม่ห่วงและไม่เอาใจใส่ในด้านสุขภาพร่างกายมากเกินไปนัก เพราะตามปกติจะไม่เห็นว่ามีอะไรผิดสังเกต หรือกระทบกระเทือนเหมือนคนอื่นๆ ก็จะปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งก็จะฉุขึ้นมาก่อนที่จะแก้ไขอะไร ทุกอย่างก็เกือบจะสายไปแล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้ห่วงสุขภาพและสังขารเสียบ้าง ระวังไว้ให้มาก 

การเงินและโชคลาภ
: การเงินและโชคลาภสำหรับชาวราศีธนู อาจจะแตกต่างไปกว่าคนในราศีอื่นๆหลายประการ ตรงที่อาชีพและการประกอบอาชีพของชาวราศีธนู มักจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการนำในทางการศึกษาหรือวิชาการ เป็นครูอาจารย์หรือศาสตราจารย์ เป็นผู้พิพากษา เป็นนักกฎหมาย เป็นนายทหาร 

ซึ่งในอาชีพเหล่านี้ ชาวราศีธนูจะเป็นผู้อยู่ในฐานะเป็นผู้นำ หรือไม่ก็เป็นผู้บริหารและเป็นผู้ทำหน้าที่ปกครองเท่านั้น เพราะฉะนั้นรายได้และโชคลาภสำหรับชาวราศีธนู จึงเป็นโชคลาภและรายได้ที่มาจากการให้ของคนอื่นหรือการตอบแทนความรู้ความสามารถ ในการรับผิดชอบงานในตำแหน่งหน้าที่ มากกว่าจะเป็นการทำมาหาได้ประเภทวิ่งซื้อวิ่งขาย สับโน่นเปลี่ยนนี่เหมือนชาวราศีอื่น 

อาชีพของชาวราศีธนูจะเป็นไปตามจังหวะช้าๆ หนักแน่นมั่นคง ค่อยๆขยายตัวไปตามจังหวะ แม้แต่เขาจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการค้าขาย หรือแม้แต่จะเป็นผู้อำนวยการของสำนักงานใหญ่ๆ เช่น ธนาคารหรือองค์การหนึ่งองค์การใดก็ตาม เขาจะขึ้นมาอย่างไม่มีการเสี่ยง ขึ้นมาด้วยเงินและโชคลาภที่มีอยู่ตามปกติ ซึ่งจะแตกต่างกว่าคนอื่นก็ตรงที่เขาเป็นคนมีโอกาสและมีความสามารถที่จะก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งนั้นมากกว่าคนอื่น ด้วยความเหมาะสมหรือความรู้ความสามารถอันเป็นที่ยอมรับของเขานั่นเอง 

เขาไม่เหมาะสำหรับการเสี่ยงโชคหรือการลงทุน แต่เหมาะสำหรับการที่จะนำคนอื่นในฐานะที่ปรึกษา หรือในฐานะผู้ให้คำแนะนำ หรือนำหลักฐานเรื่องราวเกี่ยวกับการจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรให้ แต่เขาไม่เหมาะที่จะเสี่ยงลงมือทำเองหรือดำเนินการด้วยตนเอง ในทางการหาเงินหรือการทำเงิน เงินสำหรับชาวราศีธนู เป็นเงินที่ได้มาแล้วจะต้องอยู่เป็นกอบเป็นกำหรือเป็นเงินที่ไม่ร้อนงบประมาณของเขา ไม่ว่าจะมากหรือน้อยจะต้องมีการจัดสรรให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เขาจะซื่อตรงต่อการจัดสรรนั้น จะไม่ยอมจ่ายยอมใช้ให้มันฟุ่มเฟือยเกินไปกว่าจำนวนเป็นอันขาด เพราะฉะนั้น ถ้าพูดถึงการเงินของเขา เขาจะเป็นคนที่เงินไม่ขาดมือหรือยอมให้เงินขาดมือไม่ได้ ในขณะเดียวกัน การสะสมรวบรวมเงินของเขาให้เป็นก้อนใหญ่ ก็จะทำไปอย่างช้าๆ และเป็นจังหวะ ไม่ขาดสาย ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาจะมาจากที่ดินหรือการลงทุนในระยะยาวที่ได้ผลน้อยแต่ช้าๆ เช่น ฝากธนาคารกินดอกเบี้ยหรือซื้อพันธบัตร เป็นต้น แต่จะไม่ใช่รายได้แบบเสี่ยงๆเป็นอันขาด 

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม รายได้ของเขามักจะเกิดขึ้นไม่ยอมขาดสาย เนื่องจากการมองปัญหาอย่างรอบคอบด้วยสายตาไกล การแผ่ขยายชีวิตและชื่อเสียงเกียรติคุณเข้าสู่กลุ่มและวงการต่างๆ เขาจะมีโอกาสทำเงินซึ่งเกิดมาจากความซื่อสัตย์สุจริตและใจกว้างเป็นลำดับไป เขาไม่ใช่คนใจแคบ การบริจาคและการช่วยเหลือผู้อื่นของเขาจะมีมากเป็นเงาตามตัว แต่เขาจะทำอย่างมีกฎเกณฑ์ จะไม่ทำแบบขายผ้าเอาหน้ารอด หรือทำบุญช่วยเหลือคนอื่นเพื่อการเอาหน้า หรือทำโดยชนิดต้องวิ่งเต้นหยิบยืมมาเพื่อเอาหน้าเป็นอันขาด 

เขามักจะเป็นคนไม่เดือดร้อนในเรื่องเงินมากนัก เพราะเขาจะไม่ยอมเสี่ยงในเรื่องเงินคือถ้าหากเขามีเงินไม่พอเขาจะไม่ใช้มัน เขาจะใช้จ่ายเท่าที่เขามี หรือถ้าหากเขาไม่มองเห็นว่าเงินของเขามันจะงอกขึ้นที่ไหนให้เห็นชัดเจนหรือจนกว่าจะแน่ใจแล้ว เขาจะไม่ยอมใช้จ่ายมันเป็นอันขาด นั่นคือสาเหตุและที่มาแห่งโชคลาภที่ไม่เคยสิ้นสุดของเขา 


ราศีกุมภ์


ราศีกุมภ์
ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 13 มีนาคม


เชื่องช้าแต่รอบคอบ ชอบการเปลี่ยนแปลง คนราศีนี้อ่านใจคนเก่ง พอๆกันกับที่ปรับตัวเก่งและมีมนุษยธรรมสูง



เป็นราศีธาตุลมราศีสุดท้าย ในราศีที่ถูกจัดเป็นราศีธาตุลมสามราศีจาก 12 ราศีของจักรวาล ราศีกุมภ์เริ่มต้นตั้งแต่องศาที่ 301 ของจักรวาล โดยการนับจาก 0 องศาที่ราศีเมษไปจนถึงองศาที่ 330 ของจักรวาล เป็นที่สิ้นสุดของราศีนี้ ตลอดเวลาสามสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป จนถึง 13 มีนาคมของแต่ละปี พระอาทิตย์จะโคจรผ่านราศีนี้วันละประมาณ 1 องศาจนครบ 30 องศา หรือเป็นเวลาประมาณ 30 วัน บุคคลผู้เกิดในระยะวันเวลาดังกล่าวนี้ จะได้รับอิทธิพลจากแสงอาทิตย์หรืออิทธิพลของอาทิตย์อย่างสมบูรณ์และเต็มที่ตั้งแต่แรกเกิด จึงถูกจัดให้เจ้าชะตาเป็นชาวราศีกุมภ์

ความหมายของราศีกุมภ์ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเจ้าชะตา นอกจากจะใช้อิทธิพลของอาทิตย์ที่โคจรอยู่ในราศีนี้แล้ว โหรโบราณได้กำหนดเอาความสำคัญของธาตุประจำราศีคือธาตุลมมาเป็นหลักสำหรับประกอบการพิจารณาคุณสมบัติหรืออุปนิสัยใจคอของเจ้าชะตาอีกส่วนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ราศีกุมภ์ก็เช่นเดียวกับราศีอื่นๆ เป็นราศีที่ถูกจัดให้มีดาวเคราะห์ หรือเทพเจ้าองค์หนึ่งเป็นเจ้าของ หรือเป็นกรรมการจัดการผู้มีอำนาจเต็มในการดำเนินการบริหารและให้ดีให้ร้ายแก่เจ้าชะตา โหรโบราณกล่าวว่าเป็นเรือนของดาวเสาร์ได้แก่เลข 7 หรือราหูได้แก่เลข 8 และในปัจจุบันมีผู้จัดให้เป็นเรือนของดาวมฤตยูหรือเลข 0

แล้วท่านก็เอาความหมายของดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าเหล่านี้เข้าไปประกอบในการทำนายร่วมกับอาทิตย์และธาตุประจำราศี เพื่อกำหนดคุณสมบัติ อุปนิสัย หรือความเป็นไปในชะตาของเจ้าชะตาอีกชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะทำความเข้าใจในอิทธิพลของราศีกุมภ์ หรือคุณสมบัติความเป็นไปของคนราศีกุมภ์ว่าจะเป็นไปในสถานใดหรืออย่างไรบ้าง เรื่องที่จะต้องรู้และต้องทำความเข้าใจก่อนอื่นก็คือ ธาตุประจำราศี อันได้แก่ธาตุลม


คำว่าลม ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน แต่เป็นสภาวะชนิดหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหวอันไม่สามารถที่จะมองเห็นตัวได้ ในทางโหราศาสตร์จึงหมายถึงการเลื่อนไหล การแผ่เข้าไป การผสมผสานและความกลมกลืน ความคล่องตัวและความว่องไว สามารถซอกซอนและแทรกซึมเข้าไปในที่และสภาวะต่างๆทั้งๆที่ไม่สามารถจะมองเห็นตัวได้ ซึ่งหมายถึงสภาวะทางจิตใจและพฤติกรรมของคนที่อยู่ใต้อิทธิพลของธาตุนี้

ธาตุลม มีความหมายเกี่ยวกับชีวิตจิตใจของคนที่อยู่ในราศีธาตุนี้ จึงสรุปได้ดังต่อไปนี้

"ธาตุลม เน้นหนักและเกี่ยวข้องกับจิตใจ ความคิดอ่านและสติปัญญามากกว่าทางด้านอื่น เพราะฉะนั้น ราศีกุมภ์อันอยู่ในธาตุลมหรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของธาตุลม จึงให้ความหมายถึงเชาวน์ปฏิภาณ ความฉลาดแหลมคม ที่เหมาะสำหรับใช้เป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำสั่งสอนแก่ผู้อื่น แสดงถึงความรู้ความสามารถเป็นพิเศษในทางด้านอักษรศาสตร์และการเรียนรู้ ความชำนิชำนาญที่เป็นไปได้ทางด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการที่เป็นวิทยาศาสตร์ การมีชีวิตอยู่หรือการประกอบอาชีพที่จะต้องใช้ประสาทสมองหรือสติปัญญามากกว่าการใช้กำลังกาย เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการใช้กำลังหรือออกแรงทางด้านบัญชี ตัวเลข กวี นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ ครูหรือนักพูด นักกฎหมาย และนักวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้น ราศีกุมภ์เป็นราศีธาตุลม และผู้ที่เกิดในราศีนี้จึงหมายถึงคนที่ไม่ค่อยจะมีความแข็งแกร่งทางร่างกายมากนัก แต่มีสมรรถภาพทางประสาทสมองและสติปัญญาค่อนข้างสูง มีความคิดและจินตนาการที่ดี เป็นนักอุดมคติและมีรสนิยมทางศิลปะ ชอบเรียนรู้และแสวงหาความรู้ ชอบการพิจารณาหาเหตุผลและการใช้เหตุผล ชอบใช้ยุทธวิธี มีแผนการมากกว่าที่จะทำอะไรอย่างทื่อๆท่าๆ ไม่มีชั้นไม่มีเชิง"


นี่เป็นลักษณะของราศีธาตุลม นอกจากจะใช้ลักษณะและคุณสมบัติของธาตุประจำราศีคือธาตุลม มาแปลความหมายสำหรับให้คำทำนายแก่คนในราศีกุมภ์แล้ว ก็ยังได้ใช้ความหมายของดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าประจำราศี หรือกรรมการผู้จัดการบริหารราศีอันทำหน้าที่บันดาลดี บันดาลร้ายให้แก่เจ้าชะตาอีกส่วนหนึ่งประกอบด้วย ส่วนหนึ่งของราศีกุมภ์ โหรไทยโบราณจัดให้เป็นเรือนของดาวเสาร์อีกเรือนหนึ่ง แต่ในการใช้ดาวเสวยอายุของคัมภีร์ทักษาพยากรณ์ ได้นำเอาราหูมาเพิ่มเข้าอีกตัวเหนึ่งให้เป็นดาวเคราะห์ร่วมเรือน สำหรับโหรสมัยใหม่นั้น รวมเอาความสำคัญของดาวเสาร์และราหูมาไว้ในความหมายของดาวมฤตยู หรือเลข 0 เป็นดาวเคราะห์ที่ให้ความหมายแก่ราศีกุมภ์ ซึ่งดูเหมือนจะให้ความหมายแก่ราศีกุมภ์ได้ถูกต้องกว่าการใช้เสาร์และราหูโดยเฉพาะ ความหมายของดาวเคราะห์มฤตยูหรือเลข 0 มีดังนี้

"มฤตยู เป็นดาวเคราะห์ที่บ่งถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ ความสามารถทางด้านเครื่องยนต์กลไก การเปลี่ยนแปลงอย่างปัจจุบันทันด่วนของสรรพสิ่งและสถานการณ์ การพลัดพรากจากที่รักและที่อยู่อาศัย ความเศร้าโศกเสียใจและการถูกเนรเทศ ความเคียดแค้นและศัตรู โชคเคราะห์ที่ไม่คงเส้นคงวาและไม่แน่นอน ความรู้สึกกระตุ้นเตือนอันเร่งเร้าอยู่ภายในความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจได้ ความวิปริตพิสดารออกนอกลู่นอกทางของพฤติกรรมและสถานการณ์ ความสามารถในการประดิษฐ์คิดสรรค์และการริเริ่มใหม่และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ทุกชนิด มีความมั่นคงต่อความคิดความเห็นและอุดมการณ์ของตนอย่างแรงกล้า เป็นนักวิพากษ์วิจารณ์และการพูดกระทบกระแทกเสียดสีที่หาตัวจับยาก มีอารมณ์โรแมนติก และมี อัจฉยะริวุฒิในด้านต่างๆ และรอบรู้ มฤตยู มีอิทธิพลในการก่อให้เกิดสัญชาตญาณและบุคคลที่มีความสามารถในเชิงบรรยาย ผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับสาธารณชนและประชาชน นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา"

เมื่อได้นำเอาคุณสมบัติของธาตุประจำราศีและดาวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการบริหารราศี รวมถึงตัวอาทิตย์อันเป็นตัวพลังงานเข้าด้วยกันแล้ว บุคคลที่เกิดในราศีกุมภ์หรือตัวราศีกุมภ์ นักโหราศาสตร์โบราณก็รวบรวมเอาคุณสมบัติของราศีกุมภ์ทั้งหมดมาสรุปไว้ สำหรับให้ชาวราศีกุมภ์พิจารณาคุณสมบัติของตัวเองดังต่อไปนี้

ในบรรดาราศีทั้งสิบสอง ถือเอาราศีเมษเป็นราศีอัตตาหรือราศีที่ 1 ของจักรวาล หรือเป็นราศีแห่งการเริ่มต้น ราศีกุมภ์เป็นราศีที่ 11 ของจักรวาล อันเป็นราศีที่มีความหมายถึงการได้มาซึ่งผลประโยชน์หรือเป็นลาภะของราศีเมษ ราศีกุมภ์จึงหมายถึงมิตร ไมตรีจิต ผลกำไรทางได้ทางเสีย หรือที่มาแห่งการได้และผลกำไรของเจ้าชะตา

ราศีกุมภ์เป็นราศีธาตุลมปลายธาตุ หรือธาตุลมอันดับที่ 3 สุดท้ายของราศีลมใน 3 ราศีของจักรวาล ความหมายของธาตุลมในราศีนั้นจึงเน้นไปถึงความสามารถในการเข้าใจปัญหาทุกด้านของเจ้าชะตา ความสามารถในการปฏิบัติตนเพื่อประสานกลมกลืนกับผู้อื่น อันได้แก่ มิตรสหาย การหารายได้ ตลอดจนการมีผู้รู้จักมักคุ้นโดยทั่วไป ราศีกุมภ์เป็นราศีเพศชายมีคนกับหม้อน้ำเป็นสัญลักษณ์ หมายถึงข้อเท้า น่อง และเลือด สำหรับส่วนต่างๆของร่างกาย

รูปร่างลักษณะ
: ชาวราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นราศีที่มีรูปคนถือหม้อน้ำเป็นสัญลักษณ์ หมายถึงความแข็งแรงและความสามารถ รูปร่างคนในราศีนี้จึงเกิดมาเพื่อรับภาระหรือทำหน้าที่ทุกชนิดที่มีความเกี่ยวพันกับมนุษย์และสังคม เขาจึงเป็นคนที่ไม่อ่อนแอ แต่กลับมีความแข็งแรงประกอบกับสัดส่วนที่สูงและสมบูรณ์ ใบหน้ามักจะเป็นรูปไข่ ผิวพรรณสดใสเข้าที่ ลักษณะรูปร่างกระเดียดไปในทางที่จัดได้ว่าหล่อเหลาเอาการ ราศีกุมภ์เป็นราศีที่ช่วยให้เด็กที่เกิดมาเป็นเด็กที่มีความงาม ฟันค่อนข้างจะไม่ดี ผมไม่ค่อยจะดำนัก มักมีแผลเป็นที่น่อง

สภาพทางจิตใจ
: โดยที่ราศีกุมภ์เป็นราศีธาตุลม โดยคุณสมบัติของธาตุนี้จะทำให้เจ้าชะตามีคุณสมบัติพิเศษ ประการแรกก็คือเชาวน์ปฏิภาณ และความเฉลียวฉลาดโดยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเขาจะมีความสามารถเป็นพิเศษในการอ่านนิสัยหรืออ่านจิตใจของคนอื่น สามารถจะชั่งตวง หรือวัดสิ่งดีสิ่งเลวที่มีอยู่ในตัวคนอื่นได้ด้วยความละเอียดละออ เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นนักมองคน เป็นนักพิจารณาคน ดูคนอื่นคิด ดูคนอื่นทำ ดูคนอื่นแสดงออก และดูผลที่มันเกิดขึ้นจาการกระทำของเขาเหล่านั้น คล้ายๆกับว่ามันเป็นสัญชาตญาณ
เขาจะคิดอย่างเชื่องช้าและพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่โดยละเอียดลออถี่ถ้วน ทุกอย่างที่คิดไว้และพิจารณา เขาจะไม่มีวันลืมและมีความสามารถอย่างสูงในการจดการจำ

ในฐานะที่เป็นภพที่ 11 ของจักรวาล ชาวราศีกุมภ์ จะเป็นคนที่มีทัศนะต่อโลกและชีวิตอย่างกว้างไกลไพศาล จะไม่มีความเห็นแก่ตัวและจะไม่มองอะไรไปจากตัวเองหรือเอาตัวเองเป็นหลักในการคิดพิจารณาหรือใช้ทัศนะในชีวิต เพราะฉะนั้นคนราศีกุมภ์จึงเป็นคนที่มีความเห็นแก่ตัวน้อยที่สุด เป็นผู้ที่รู้จักมนุษย์ และมีความเข้าใจต่อสัญชาติมนุษย์ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชาวราศีกุมภ์เกิดมาเป็นนักมนุษยธรรมโดยกำเนิด
เขาจะไม่มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเขาเอง ไม่ว่าการกระทำหรือความคิด เขามองไปที่คนอื่นและกลุ่มคนหรือสังคมทั้งหมด ชีวิตของเขาจึงเต็มไปด้วยความกว้าง เสาะแสวงหาและแทรกซึมเข้าไปตามจุดต่างๆในสังคมที่เขาอยู่ เพื่อคนอื่นและในฐานะนักมนุษยธรรม ในกลุ่มคน ในหมู่คณะ หรือในสโมสรหรือองค์การเพื่อสาธารณะ เขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องและทำงานรวมอยู่เงียบๆ ในกลุ่มใดหรือที่ไหนก็ตาม ที่มีความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน หรือมีความแตกแยกกัน ชาวราศีกุมภ์ก็จะเข้าไปเพื่อการประนีประนอม แสวงหาความร่วมมือและการผสมผสานกลมกลืนในหมู่คนเหล่านั้น คล้ายๆกับเสือกและแส่ในเรื่องของชาวบ้านชาวช่องอะไรทำนองนั้น

โดยที่เขาอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม แต่เป็นสัญชาตญาณหรืออุปนิสัยของเขาที่อยากเห็นสังคมหรือกลุ่มชนที่เขามีชีวิตอยู่ร่วม เต็มไปด้วยความสงบราบรื่น เต็มไปด้วยความเสมอภาคเท่าเทียม และในลักษณะผสมกลมกลืน ด้วยจิตใจและสัญชาตญาณดังกล่าวนี้เอง จึงเป็นคุณสมบัติและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของเขาที่จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จในชีวิตที่มาจากด้านความเห็นอกเห็นใจ และความร่วมมือจากคนอื่น เป็นผู้นำผู้อื่นในด้านนักมนุษยธรร

บุคลิกลักษณะและอุปนิสัย
: สิ่งที่ปรากฏชัดและเห็นได้อย่างแน่นอนในบุคลิกลักษณะของชาวราศีกุมภ์ก็คือ ความเฉลียวฉลาดและภูมิปัญญา ถ้าจะเรียกกันว่าชาวราศีกุมภ์คือเจ้าแห่งคนสมองใสในบรรดาคนสมองใสต่างๆเท่าที่จะมีกันอยู่ ชาวราศีกุมภ์ไม่มีวันแพ้ใคร มีทัศนะอันกว้างไกล และเป็นคนที่มีความคิดอ่านทันยุคทันสมัยหรือออกจะล้ำยุคสมัยไปด้วยซ้ำ 

ชาวราศีกุมภ์ ไม่ว่าจะแก่เฒ่าหรืออายุขนาดไหน การที่จะมอซอในด้านความคิดความอ่าน ความไม่ทันสมัยหรือในการกระทำที่ล้าหลังคนอื่น เป็นไม่มีแน่นอน ในจิตใจของชาวราศีกุมภ์ โดยที่เป็นราศีแห่งนักมนุษยธรรมและความมีจิตใจมนุษยธรรม จะทำให้ชาวราศีกุมภ์มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะยกระดับความคิดความอ่านและความเป็นอยู่ของมนุษย์ทุกถ้วนหน้าให้ดียิ่งขึ้นกว่าเท่าที่เป็นอยู่ เขาปรารถนาที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นและเพื่อทุกคนให้ดีกว่าเดิมหรือมีมาตรฐานสูงกว่าเดิม 

เพราะฉะนั้น เขาอาจจะเป็นนักบุกเบิกทางความคิด เป็นผู้นำทางสังคม เป็นผู้นำทางภูมิปัญญา เป็นนักสังคมสงเคราะห์ หรืออาจจะเป็นนักการเมืองหรือปฏิรูปที่มีความมานะพยายามไม่หยุด วิธีคิดและวิธีทำหรือวิธีแสดงออกของชาวราศีกุมภ์ มีลักษณะพิเศษตรงที่ว่าเขาจะไม่ตามคนอื่น แต่จะมีแนวคิดของตนเองที่ไม่เหมือนใครและไม่ซ้ำแบบใคร ซึ่งส่วนมากในความคิดความอ่านหรือความเห็นของเขาที่แสดงออกมาต่อคนอื่นนั้นจะต้องเป็นความคิดใหม่แนวใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากจะมาจากสติปัญญาของเขาเองและโดยความสามารถอัจฉริยะของเขาเอง 


ในบรรดามนุษย์ที่ไม่ยอมเอาอย่างใครไม่ว่าในเรื่องใดๆนั้น มีชาวราศีกุมภ์อีกจำนวนหนึ่งที่จะแสดงออกมาให้เห็นในทุกด้าน ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานที่เขาถนัดหรือการดำรงชีวิต หรือการแสดงออก ส่วนมากงานของเขาหรือการแสดงออกหรือพฤติกรรมของเขาทุกอย่างจะไม่เหมือนใคร และต้องแตกต่างไปจากคนอื่นอย่างที่คิดไม่ถึง อาจจะเรียกได้ว่ามีความพิสดารหรือวิตถารหลายๆประการกว่าคนอื่น เขาไม่ลังเลที่จะคิดที่จะทำในด้านที่มีลักษณะประหลาดพิสดารเหล่านั้น แม้แต่การแต่งเนื้อแต่งตัว เขาอาจจะแหวกยุคแหวกสมัยออกไป ไม่ตามใครและล้ำหน้าไปกว่าคนอื่น โดยไม่เกรงต่อสายตาใครหรือจะคิดไปว่าคนอื่นจะเห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาด ถ้าหากเขาจะเป็นนักออกแบบแฟชั่นแล้ว เขาจะโลดออกไปข้างหน้ายุคสมัยที่มีลักษณะแปลกประหลาดพิศดาร ซึ่งถ้าใครไม่กล้าแต่ง เขาพร้อมที่จะแต่งเองและแต่งมันอย่างโก้เก๋ โดยไม่คำนึงถึงว่าใครจะว่าอย่างไรหรือมองอย่างไรหรือไม่ การเป็นคนมีความคิดริเริ่ม เป็นอุปนิสัยหรือเป็นบุคลิกลักษณะประการแรกของคนราศีกุมภ์ เขาจะอดรนทนไม่ได้กับการยอมรับเอาสิ่งเก่าๆหรืออยู่กับสิ่งเก่าๆไม่ว่าจะเป็นความคิดความอ่านหรือระเบียบแบบแผนหรือวิธีการ ไม่ใช่คิดอย่างเพ้อฝันหรือในลักษณะบ้าหอบฟาง ไม่มีกฎไม่มีเกณฑ์ แต่ความคิดความอ่านของเขาจะมีแนวโน้มไปทางด้านวิทยาศาสตร์และเป็นลักษณะวิทยาศาสตร์ ถ้าเขามีโอกาสศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ เขาจะเป็นนักค้นคว้าและเป็นเจ้าของทฤษฎีแห่งความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน ถ้าเขาเป็นนักอักษรศาสตร์ วรรณคดี หรือเป็นนักเขียนนวนิยาย เรื่องของเขาจะออกไปนอกโลกหรือพ้นยุคพ้นสมัยหรือที่ใครคาดหมายไม่ถึง ซึ่งเขาจะทำได้อย่างประสบความสำเร็จเป็นเยี่ยม เขาเป็นคนยึดมั่นถือมั่นต่อหลักการและความเห็นที่เขามีอยู่ หรือเขายึดถืออยู่ ไม่โลเล และไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ในการหยิบงานแต่ละชิ้นนั้น ถ้าลงว่าเขาได้หยิบมันเข้าไปแล้ว เขาจะไม่ยอมเลิกล้มเป็นอันขาด เขาจะทำมันต่อไปนานจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งเขาก็จะต้องสำเร็จในบั้นปลาย เขาเหมาะอย่างยิ่งต่องานค้นคว้า งานรีเสิร์จ และงานวิจัย เขาเป็นคนจริง ทั้งในสิ่งที่เขาชอบและเขาไม่ชอบ คือถ้าชอบก็ชอบกันจริงจังไปเลย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบกันอย่างจริงจังไปเลย ไม่มีเหลาะแหละ หรือมีชีวิตอยู่แบบเหยียบเรือสองแคม หรือจับปลาสองมือในทุกเรื่องทุกสิ่ง แม้แต่ในหมู่เพื่อนฝูงและคนที่เขาคบ ถ้าเขาชอบเขาก็จะคบอย่างไม่ยอมทอดทิ้งหรือร่วมเป็นร่วมตายกันไปตลอดชีวิตเลย แต่ถ้าหากเขาไม่ชอบแล้ว ก็เป็นบอกศาลากันไปได้เลยว่าเขาไม่มีวันที่จะหันหน้าให้แน่นอน และสำหรับเพื่อนฝูงหรือคนที่เขายอมรับแล้วทุกสิ่งที่เป็นภาระของเพื่อนฝูงที่จะต้องพึ่งพาอาศัยเขา ขอให้เขารู้หรือขอให้บอก เขาจะสู้และจะทำให้ชนิดยอมตายหรือหัวชนฝาทีเดียว ไม่ว่าจะผิดหรือจะพลาด ในสิ่งที่เขาตัดสินใจลงไปแล้ว เขาจะทำต่อไปอย่าได้ห้ามปราม หรือทักท้วงเขา เขาไม่มีวันจะยอมมันเด็ดขาด หรือถ้าจะพูดกันตรงๆก็คือว่า เขาถอยไม่ได้อีกแล้ว ในเรื่องที่เขาตัดสินใจทำลงไป 

ว่ากันกันตามจริง เขาก็เป็นคนหัวดื้อพอสมควร แต่ไม่ได้ดื้อรั้นเพราะความโง่เขลาหรือดื้ออย่างโง่ๆ แต่เขาดื้อในฐานะที่มันเป็นหลักการของเขา หลักการที่จะต้องสู้ต้องทำ ในเรื่องของหลักการแล้ว ใครจะมาห้ามปรามหรือให้เขาเปลี่ยนแปลงหลักการนั้นไม่ได้เป็นอันขาด คุณสมบัติและลักษณะอีกประการหนึ่งของชาวราศีกุมภ์ แม้ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือมีความคิดโน้มเอียงไปในทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ตาม แต่เขาก็มักจะสนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่ลึกลับและเร้นลับ เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับทางจิต เขาอาจจะเรียนวิปัสสนาหรือพยายามศึกษาเรื่องของภูตผีปิศาจอะไรก็ได้ แม้แต่เครื่องรางของขลัง เขาก็อาจจะลุ่มหลงเหมือนคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็พยายามเรียนรู้และศึกษามันในแง่วิทยาศาสตร์อยู่ดี 

เขาจะต้องค้นคว้าและแสวงหาความจริงในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี ถ้าหากเขาจะเป็นนักจิตวิทยาหรือได้เรียนทางจิตวิทยามาก่อน เขาจะมีความสามารถอย่างสูงในวิชาจิตวิทยา และสามารถค้นพบทฤษฏีและวางหลักเกณฑ์ใหม่ทางจิตออกมาอย่างน่าทึ่ง ถ้าหากเขาบวชเป็นพระหรือมีอาชีพทางด้านศาสนา เขาจะมีบทบาทและเป็นเจ้าสำนักทางจิตที่มีชื่อเสียงหรือเรียกกันว่าไปกันใหญ่อีกรายหนึ่ง แต่เขาไม่ได้โกหกหลอกลวงเพื่อจะหากิน เป็นแต่ว่าเขาจะพยายามเรียนรู้และจับเอาหลักเอาเกณฑ์ของวิทยาการแขนงนั้นมาใช้ได้อย่างรู้เท่ารู้ทันเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม คนราศีกุมภ์นั้น อย่างน้อยที่สุดในชีวิต จะต้องประสบความสำเร็จในวิชาการหรือในด้านความรู้ความชำนาญเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เขาได้รับชื่อเสียงมีคนเคารพนับถือ หรือหากินได้อย่างดีในวิทยาการที่เขามีความชำนาญนั้น 

กล่าวกันว่า ชาวราศีกุมภ์เป็นคนที่มีโชคดีที่สุดจำนวนหนึ่งในบรรดาคนทั้ง 12 ราศี เนื่องจากว่าเมื่อนับจากราศีกุมภ์ไปเป็นเรือนราศีมีน ซึ่งมีดาวพฤหัสบดีครองอยู่ เรือนราศีมีนหรือเรือนพฤหัสบดีหมายถึงเงินและทรัพย์สินความมั่งคั่งของเจ้าชะตาในราศีกุมภ์ ในขณะเดียวกันเมื่อนับถอยหลังมาอีกสามราศีเป็นราศีธนู ซึ่งถือว่าเป็นภพที่ 11 ของราศีกุมภ์ ก็เป็นเรือนที่ครองด้วยดาวพฤหัสบดีอีก ดาวพฤหัสบดีในเรือนนี้ก็หมายถึง มิตรภาพ และทางได้ 


เพราะฉะนั้น โดยการอยู่ระหว่างกลางของเรือนแห่งโชคทั้งสองเรือน จึงแน่ใจว่าชาวราศีกุมภ์นั้นจะไม่ใช่คนจน และจะไม่ต้องเป็นคนจนไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าจะเกิดมายากจน โดยอิทธิพลของดาวเคราะห์ที่ร้ายแรงอื่นๆ บันดาลให้เป็นไปเช่นนั้นก็ตาม วันหนึ่งในชีวิตชาวราศีกุมภ์ก็สามารถจะมีขึ้นมาจนได้ด้วยความรู้ความสามารถและโชคชะตา เพราะเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าเขาเกิดมาโดยไม่มีดาวเคราะห์อื่นเบียดเบียนแล้ว รับรองว่าเขาจะประสบความสมบูรณ์พูนสุขตั้งแต่เกิด และสามารถจะสร้างความสมบูรณ์พูนสุขนั้นได้สืบไป 

นอกจากเงินและความสมบูรณ์พูนสุขในด้านการเงินและทรัพย์สินแล้ว โชคดีที่สุดของชาวราศีกุมภ์อีกสถานหนึ่งในชีวิตก็คือการมีครอบครัวที่ดี ทั้งครอบครัวดั้งเดิมของตนเอง และครอบครัวที่ตนเองจะต้องไปรับผิดชอบเมื่อแต่งงานไปแล้ว เป็นครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์พูนสุข ชาวราศีกุมภ์ เป็นคนอีกราศีหนึ่งที่มีนิสัยกล้าได้กล้าเสียและกล้าสู้ ชีวิตของเขาจะไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ เรียบๆ หรืออยู่รอโชคชะตาแบบรอให้ราชรถมาเกยเป็นอันขาด เกียรติยศชื่อเสียงและความสำเร็จในชีวิตเขาจะต้องได้มันมาแน่นอน แต่เขาจะได้มาด้วยการต่อสู้แสวงหาไขว่คว้า ด้วยความสามารถอันเป็นอัจฉริยะของเขา ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใด แม้แต่ในทางด้านวิชาการก็ตาม เขาจะได้มาด้วยการลงทุนสร้างและค้นคว้าทฤษฎีใหม่ๆและความสำเร็จใหม่ๆของตนเอง 

ในแง่ของความเป็นปุถุชน ในยามที่โชคร้ายหรือบังเอิญเกิดมาถูกแรงกระหนาบของดาวพระเคราะห์อื่นๆในดวงชะตาหรือเกิดมาภายใต้อิทธิพลในด้านลบของราศีกุมภ์ ชาวราศีกุมภ์จะต้องพยายามสังเกตพิจารณาและแก้ไขตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะนิสัยใจคอหรือคุณสมบัติในด้านดีงามที่กล่าวมาแล้ว จะวิปริตบิดเบนไปในทางร้าย ซึ่งมักจะแสดงออกมาโดยลักษณะขี้เกียจและเฉื่อยชาอย่างหาตัวจับยากทีเดียว 

ทางแก้ก็คือพยายามกระปรี้กระเปร่าปลูกฝังนิสัยเป็นคนกระตือรือร้นเข้าไว้ พยายามอย่างยิ่งและต้องหาเรื่องทำให้เป็นนิสัยให้ได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือชาวราศีกุมภ์ในด้านลบ มักจะชอบแยกตัวออกจากคนอื่น ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเก็บตัวเหมือนคนสิ้นหวังอยู่คนเดียวคิดคนเดียว หาความสุขกับความอ้างว้างและความทุกข์รอบข้าง อารมณ์มักจะหม่นหมองและมองทุกอย่างด้วยความรู้สึกไม่แจ่มใส เห็นโลกทั้งโลกกลายเป็นสิ่งที่มืดมนอนธกาลไปหมด และจะมองโลกในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา 


พยายามแก้ไขความบกพร่องเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นบาปกรรมและจุดบกพร่องที่นำมาซึ่งโชคร้ายและความไม่สำเร็จผลในชีวิต ถ้าหากว่าทุกสิ่งในด้านร้ายเหล่านี้ไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลง ความดื้อดึงหรือการยึดมั่นถือมั่นในหลักการของชาวราศีกุมภ์ที่ใครขัดไม่ได้ ขวางไม่ได้นั้น มักจะเป็นหลักการที่ผิดหรือถืออย่างผิดๆ เป็นเรื่องที่ขวางโลก และเจ้าชะตาจะเป็นคนกล้าที่สุดในการกระทำตามความคิดผิดๆ นั้นอย่างไม่กลัวใครและไม่ค่อยหวั่นว่าอะไรจะเกิดขึ้นด้วย นั่นเป็นจุดบกพร่องที่จะนำเจ้าชะตาลงไปสู่ห้วงเหวของความดับและหมดหวังในชีวิต 

สุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ
: ราศีกุมภ์ ให้ความหมายถึงส่วนของร่างกายก็คือกระดูกขา ตะโพก และบริเวณก้น โรคที่สำคัญที่สุดของราศีกุมภ์ก็คือโรคประสาท ผื่นคันตามตัว แต่โรคส่วนมากที่เกิดจากอิทธิพลของราหูหรือมฤตยูร่วมกันนั้น มักจะเป็นโรคที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้ หรือเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โรคที่สำคัญที่สุดก็คือโรคติดต่อทุกชนิด ที่จะเกิดมาจากกลุ่มคน เกิดขึ้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งมักจะเป็นโรคร้ายแรงเสียเป็นส่วนมาก 

โรคต่อมาก็คือโรคเกี่ยวกับต่อมทอลซิลและโรคฟัน 
การหมุนเวียนของโลหิตในร่างกาย จะไม่เป็นไปตามปกติ ส่วนมากจะทนต่ออากาศหนาวเย็นไม่ค่อยได้ หรือเมื่อถูกอากาศหนาวเย็นก็มักจะทำให้มีอันเป็นขึ้นมาทันที ร่างกายบางส่วนจะต้องระวังให้มีความอบอุ่นอยู่เสมอ เฉพาะในเขตหรือในสภาพที่มีมาลาเรียระบาด ชาวราศีกุมภ์จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกล เพราะการติดต่อโรคเหล่านี้เป็นไปได้ง่ายมาก 

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับร่างกายขึ้นมาเมื่อไรแล้ว ชาวราศีกุมภ์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาหมอและรีบปรึกษาหมอในทันทีทันใด และอย่าได้ประมาทต่อโรคภัยไข้เจ็บเล็กๆน้อยๆ หรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะโรคสำหรับชาวราศีกุมภ์มักเป็นโรคที่ไม่ค่อยจะปรากฏเด่นชัด แต่เมื่อปรากฏออกมาแล้ว จะมีลักษณะกะทันหันทันด่วนหรือเป็นมากเอาเสียจนแก้ไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคแปลกๆภายในตัวเอง หรือเป็นโรคติดต่อ มักจะร้ายแรงและน่ากลัวอันตรายทั้งสิ้น 


การเงินและโชคลาภ
: ดังที่กล่าวมาแล้วว่าชาวราศีกุมภ์เกิดมาในราศีพิเศษตรงที่ในภพที่ 2 ต่อจากราศีกุมภ์ไปเป็นราศีของดาวพฤหัสบดี ซึ่งหมายถึงการเงินและความมั่งคั่ง และเมื่อนับย้อนกลับมาที่ภพ 11 ของราศีกุมภ์คือราศีธนูก็เป็นเรือนของดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่บันดาลโชคลาภให้แก่เจ้าชะตาอีกชั้นหนึ่ง เพราะฉะนั้นคนที่เกิดในราศีกุมภ์ ถ้าหากไม่มีดาวบาปเคราะห์ดวงอื่นในดวงชะตาร้ายแรงเกินไปมาบีบทำลายหรือบันดาลให้เกิดมาใต้อิทธิพลของราศีกุมภ์ในด้านลบเสียแล้ว ชาวราศีกุมภ์ทุกคนก็จะเป็นคนที่ไม่อดอยากปากแห้งในเรื่องเงินโชคลาภและความมั่งคั่งสมบูรณ์ในชีวิตอย่างแน่นอน 

กล่าวกันว่าอาชีพและงานของชาวราศีกุมภ์นั้น ส่วนมากไม่ใช่งานวิ่งขายวิ่งค้า ประเภทหยิบโน่นฉวยนี่แบบพ่อค้าเร่ หรือแบบเสี่ยงโชคทำนองหมายน้ำบ่อหน้า ตรงข้ามชาวราศีกุมภ์จะหากินจากงานและสินค้าที่แน่นอน โดยมากจะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกที่ทันสมัย เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆที่ไม่มีใครทำมาก่อน 

งานของราศีกุมภ์ ไม่ใช่งานประเภทซื้อง่ายขายคล่องแต่เป็นงานที่ต้องรอเวลาหรือเป็นสินค้าที่ต้องรอเวลา เจ้าชะตาจะต้องทำงานเป็นเวลานาน และรอคอยเวลาที่เหมาะสมด้วยความมานะอดทน หลังจากใช้เวลาแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสินค้าและงานของตนจนกระทั่งแน่นอนแล้ว เมื่อถึงเวลาจะได้มาหรือมีผลกำไรขึ้นมันก็จะเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ไม่มีกระจอกหรือหากินแบบชายเฟือย หนเดียวก็อิ่มไปนานหรือนอนตาหลับไปนาน 

ชาวราศีกุมภ์จะหากินได้หลายช่องทาง ในทางด้านวิทยาศาสตร์ ชาวราศีกุมภ์สามารถจะเป็นได้อย่างดีและมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนด้วยในด้านบริหาร โอกาสที่จะเข้าไปเป็นคนสำคัญในวงการธุรกิจอุตสาหกรรมใหญ่ๆก็มีอยู่มากมายทีเดียว เขาสามารถทำงานได้อย่างดีและมีโอกาสที่จะทำได้เสมอ นั่นก็เป็นที่มาของเงินและความมั่งคั่งอีกเช่นเดียวกัน อาชีพอื่น อาจจะเป็นได้ทั้งนักวิชาการ ผู้บรรยาย นักจิตวิทยา นักการเงิน ผู้เชี่ยวชาญในวงการศึกษา ทำเหมืองแร่ หรือแม้แต่กิจการเกี่ยวกับการเดินเรือและส่งสินค้าออก 

ในเรื่องเงิน ชาวราศีกุมภ์มองเห็นว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของปุถุชน เพราะฉะนั้นเขาจะมีชีวิตอยู่ด้วยการหาเงินและทำเงินให้ได้ และความจริงเขาไม่ใช่คนไม่ใช้เงิน ใช้เหมือนกัน แต่ไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป และไม่ขี้เหนียวจนเกินไป ใช้อย่างที่เขาคิดว่ามันเหมาะสมแก่ฐานะของเขาเอง 

ถ้าหากชาวราศีกุมภ์เป็นคนที่เกิดมามีฐานะยากจนหรือไม่ดีมาแต่ครอบครัวดั้งเดิม ก็อย่าเป็นห่วงว่าในชีวิตของเขาจะจนตรอกหรือไม่มีโอกาสที่จะทำมาหากิน ประสบความสำเร็จ เขาจะต้องประสบความสำเร็จแน่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ด้วยสติปัญญาและการแสวงหาช่องทางด้วยความคิดริเริ่มที่เขามี 

ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ในบริเวณหรือในสภาพที่แวดล้อมเขาอยู่ เขาสามารถจะมองเห็นโอกาสที่จะทำเงินหรือหาเงินได้จากการทำงาน หรือจากอาชีพชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างแน่นอนในขณะที่คนอื่นนึกไม่ถึงหรือมองไม่เห็นว่าเขาจะทำให้มันเป็นเงินและเป็นความร่ำรวยขึ้นมาได้ เขาสามารถจะมองเห็นและทำมันขึ้นมาได้ท่ามกลางความพิศวงของคนอื่นๆในกลุ่มเดียวกันกับเขา เขาจึงดูเหมือนจะเป็นคนที่มีโชค และมีโอกาสเสมอ นั่นมันเกิดขึ้นจากสติปัญญาและความรู้สึกนึกคิดแบบแสวงหาหรือไม่ยอมหยุดแสวงหาของชาวราศีกุมภ์ ไม่ต้องหวาดหวั่น หรือน่ากลัวหรอกว่าชีวิตจะไปไม่รอด ตราบใดที่ยังเป็นคนราศีกุมภ์ในด้านบวก แต่ถ้าเกิดมาในด้านลบก็แก้ไขมันเสีย ไม่ต้องไปรดน้ำมนต์ที่ไหน!