วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ราศีเมษ


ราศีเมษ
ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ไม่ว่าปีใดๆ

" ชาวเมษชอบเป็นผู้นำ เชื่อมั่นในตนเองสูง ตัดสินใจแม่นยำและรวดเร็ว ดิ้นรนและแสวงหาอย่างไม่เคยหยุด"

ราศีเมษเริ่มตั้งแต่ 0 องศาของราศีนั้นไปจนถึง 30 องศา ในระยะวันที่ 14 เมษายนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม อาทิตย์จะโคจรเข้าไปอยู่ในราศีนี้เป็นเวลา 30 วัน วันละ 1 องศา 

ความหมายของราศีเมษที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเจ้าชะตา นอกจากจะใช้อิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่โคจรอยู่ในราศีนี้แล้ว โหรโบราณได้กำหนดเอาความสำคัญของธาตุประจำราศีคือธาตุไฟมาเป็นหลักสำหรับการตัดสินพิจารณาคุณสมบัติหรืออุปนิสัยใจคอของเจ้าชะตา ยิ่งไปกว่านั้นราศีเมษเป็นราศีที่ถูกจัดให้มีดาวหรือเทพเจ้าองค์หนึ่งเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้คุ้มครองเป็นเจ้าหน้าที่ผู้จัดการและบริหารราศี ได้แก่ ดาวอังคาร หรือเลข

แล้วท่านก็เอาความหมายของดาวอังคารประกอบเข้าไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อทายออกมาถึงลักษณะอุปนิสัยและความเป็นไปในวิถีชีวิตของเจ้าชะตา ก่อนที่จะทำความเข้าใจในอิทธิพลของราศีเมษ หรือคุณสมบัติของคนที่เกิดในราศีเมษว่าเป็นอย่างไรบ้างนั้น สิ่งที่จะต้องรู้ก่อนก็คือ ธาตุประจำราศีนี้คือธาตุไฟ 
คำว่า ไฟ เห็นจะไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมาก เพราะไฟก็คือความร้อนและพลังงานความร้อนนั่นเอง แต่ในทางโหราศาสตร์ได้แปลความหมายของพลังงานความร้อนนี้ออกไปเป็นนามธรรม เกี่ยวกับชีวิต วิญญาณและจิตใจ ซึ่งอาจจะพอสรุปได้คร่าวๆดังต่อไปนี้ 

"ราศีธาตุไฟมีความหมายถึงความเข้มแข็งและความเปล่งปลั่งของจิตใจ พฤติกรรมจะมีลักษณะโน้มเอียงไปในทางที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีอิสรภาพและรักความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับสิ่งใด และไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใด กล้าหาญและมีความทะเยอทะยาน ก่อให้เกิดความมุ่งมาดปรารถนาไม่สิ้นสุด ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อแท้ย้อย่น บ่งถึงความทะนงในตนเอง การจะก้มหัวให้ใครหรือให้ใครมาชี้นิ้วบงการว่าอ้ายนั่นเป็นอ้ายนี่ หรือคอยสะเออะสะอ๋องสะแอ่งตามใจพระเดชพระคุณท่านไปตลอดกาลนั้นอย่าได้หมาย ถ้าจะลงมือคิดอ่านหรือทำการอะไรสักอย่าง ต้องคำนึงถึงความเอิกเกริกหรูหราเอาไว้ก่อน ชอบการเป็นผู้นำและนำหน้าคนอื่น ลงมือก่อนคนอื่นในทุกสิ่ง ไม่ยอมรับเอาความคิดเห็นหรือการชี้แนะชี้นำจากผู้อื่น จะทำตามความพอใจของตนเองตามที่ตนคิดและตามที่ตนเห็น การพูดจาปราศรัยกับคนอื่น ก็จะเริ่มต้นด้วยการตั้งปัญหาหรือมีข้อขัดแย้ง ให้มีการโต้แย้งกันขึ้นและก็ชอบการโต้แย้งนั้นด้วย"

นี่เป็นลักษณะของไฟหรือราศีธาตุไฟ นอกจากเอาลักษณะของธาตุไฟประจำราศีมาเป็นหลักแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่นำมาใช้เป็นความหมายสำหรับการทำนายคนในราศีนี้อีกด้วยก็คือดาวเคราะห์หรือเทพเจ้าที่ถูกจัดให้ทำหน้าที่ครอบครองหรือเป็นกรรมการผู้จัดการราศีคือดาวอังคารหรือเลข

อังคารหรือ 3 ความหมายทางโหราศาสตร์หมายถึง :- 

"อารมณ์ที่คุกรุ่นไม่เคยดับ เน้นหนักไปทางความเคียดแค้นและโทสจริตวุ่นวาย ร่องรอยของบาดแผลที่เกิดจากเหล็กและไฟ การตายโดยปัจจุบันทันด่วนหรืออุบัติเหตุกะทันหัน ความวู่วาม การมีชื่อเสียงในการรบและด้านความกล้าหาญ ความกระเหี้ยนกระหือรือ ความเจ็บปวด ซึ่งโดยลักษณะดังกล่าวนี้ ผู้ที่เกิดใต้อิทธิพลของดาวอังคารจึงเป็นผู้ที่ไม่ค่อยจะกลัวจะเกรงอะไร ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ในชีวิตหรืออุปสรรค มีความกล้าหาญ ง่ายต่อการที่จะโกรธและใช้อารมณ์ ชอบความเด่นความดังโป้งป้าง โผงผางในการแสดงออก ฉลาดและแหลมคม มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในวิชาชีพ แต่ละสาขาที่ตนเลือก ชอบการเปลี่ยนแปลงและไม่ยอมอยู่นิ่ง"

เมื่อได้นำสมบัติของธาตุประจำราศีและดาวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการประจำราศีรวมถึงคุณสมบัติของอาทิตย์ที่เป็นตัวพลังงานเข้าด้วยแล้ว บุคคลที่เกิดในราศีเมษหรือตัวราศีเมษ นักพยากรณ์โบราณก็รวบรวมเอาคุณสมบัติของราศีเมษทั้งหมดสรุปไว้สำหรับให้ชาวราศีเมษพิจารณาคุณสมบัติของตัวเองดังต่อไปนี้ ในบรรดาราศีทั้ง 12 ราศี เมษถือเป็นราศีที่หนึ่ง หรือราศีต้นของจักรวาล การเกิดขึ้นของสรรพสิ่งหรือการเริ่มต้นทั้งหลายทั้งปวงของสรรพสิ่งเกิดจากราศีเมษ และมีราศีเมษเป็นต้นกำเนิด ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟและเป็นราศีแห่งความร้อนโดยธรรมชาติ เป็นราศีเพศชาย สัญลักษณ์ของราศี คือ รูปแพะ เป็นราศีที่บ่งถึงใบหน้า ศีรษะ และส่วนบนของร่างกายมนุษย์ 



รูปร่างลักษณะ
: ผู้ที่เกิดในราศีเมษ ท่านว่ารูปร่างเป็นคนค่อนข้างสันทัด ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป ค่อนข้างจะกระเดียดไปทางผอมบาง แต่ก็มีเนื้อมีหนัง แต่ไม่หนาหรือเตี้ยล่ำ ใบหน้าและคอค่อนข้างจะยาว ลักษณะสีหน้าและผิวพรรณค่อนข้างจะแดงระเรื่อ เพราะความสมบูรณ์ของเลือดและการสูบฉีดของโลหิต ศีรษะค่อนข้างใหญ่หรือกว้างในขณะที่ปลายคางค่อนข้างจะแคบกว่าปกติ ขนคิ้วหนา ตาสีเทาหรือค่อนข้างจะเป็นสีน้ำตาล มีประกายคมเฉียบ เส้นผมแข็ง แต่ไม่ถึงหยาบกระด้าง 

สภาพทางจิตใจ
: โดยที่ราศีเมษปกครองควบคุมโดยดาวอังคาร นิสัยจิตใจของเจ้าชะตาก็จะโน้มเอียงไปทางลักษณะดาวอังคาร คือมีความกระปรี้กระเปร่า และถูกกระตุ้นให้มีพลังงานอยู่เสมอในทุกกรณี มีความฝันและความทะเยอทะยานสูง กล้าคิดกล้าทำ กล้าเสี่ยงและกล้าพูด อารมณ์คุโชนอยู่ด้วยพลังและความเคลื่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมและสัมผัส มีความเชื่อมั่นและเชื่อมือตัวเองในลักษณะพิเศษ ไม่ว่าความคิดความอ่านหรือการกระทำ ตลอดจนความมุ่งหวังในชีวิต จะมองไปข้างหน้าไกลกว่าปกติและวางเป้าหมายใหญ่โตโอฬารอยู่เสมอ ไม่ยอมถอยและไม่ยอมน้อยหน้าใคร ทุกอย่างจะสู้ ทุกอย่างจะคิด ทุกอย่างจะทำและทุกอย่างไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ คิดแต่อย่างเดียวว่าจะไปตายเอาดาบหน้า และตายก็ช่างหัวมัน ขออย่างเดียวคือ ให้ได้คิด ขอให้ได้ทำ ขอให้ได้หวัง และขอให้ได้สำแดงออกเท่านั้น ชีวิตจะอยู่นิ่งๆไม่ได้ อะไรก็ได้ ขอให้ได้ทำให้ได้สำแดง หรือมีมีส่วนเข้าไปร่วม อย่างไม่ได้อะไรเลยก็ขอให้เกิดความหวานความมันเอาไว้ก่อน 


บุคลิกลักษณะและอุปนิสัย
: ในฐานะที่ราศีเมษเป็นราศีที่หนึ่งหรือราศีต้นของจักรวาล ผู้ที่เกิดในราศีเมษก็มีอุปนิสัยเป็นไปตามความหมายของราศีคือ ชีวิตของคนในราศีเมษจะมีความต้องการอยู่ประการเดียวคือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในฐานะอะไรและในสภาพอย่างไร ทำงานอะไร คนราศีเมษขอให้ได้เป็นผู้นำหรือได้เป็นหัวหน้าคนเสมอไป นั่นเป็นสัญชาติญาณ หรือเป็นกมลสันดานอันแท้จริงที่คนราศีเมษจะต้องมีอยู่ 

คนในราศีเมษ อาจจะอ่านตำราร้อยแปดตำรา อาจจะเรียนรู้จบเจนทุกสิ่งทุกอย่างทั้งใต้มหาสมุทรหรือสูงไปถึงขอบจักรวาล คนราศีเมษอาจจะนั่งฟังคำสั่งสอนแนะนำจากใครต่อใครเป็นวัน หรือต่อให้จับไปสัมมนาเป็นแรมปี ชาวราศีเมษจะฟังได้ รับได้ แต่สิ่งที่ชาวราศีเมษจะทำก็คือ ไม่เชื่อตำรับตำราหรือคำแนะนำเหล่านั้น ตรงข้าม ชาวราศีเมษจะเชื่อตัวเอง จะพิจารณาด้วยตัวเองและตัดสินใจด้วยตัวเอง อ้ายเรื่องชี้นิ้วบอกให้ทำโน่นทำนี่จากใครต่อใครนั้น เมินเสียเถอะ ชาวราศีเมษจะไม่ทำตามง่ายๆนัก ถ้าจะทำก็ทำเอง 
หรือมีวิธีการทำอันเป็นของตัวเอง ขออย่างเดียว ถ้าเกิดเป็นราศีเมษแล้ว แม้ว่าจะทำในสิ่งที่คนทุกคนต้องการให้ทำก็จริง และเขาเองก็ต้องทำตามนั้นก็จริง แต่เขามีวิธีทำของเขาเองเป็นเรื่องของเขาเอง ใครอย่ามาบงการเป็นอันขาด ชาวราศีเมษ ไม่สามารถจะเป็นผู้สนับสนุนได้ นอกจากการเป็นผู้นำหน้า ไม่ว่าจะในด้านความคิดหรือการกระทำ ชาวราศีเมษจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้า เป็นนายงาน เป็นผู้รับผิดชอบชาวราศีเมษมีคุณสมบัติในด้านดีหลายประการ ในด้านความคิดอ่านหรือในด้านการลงมือกระทำหรือในการรับผิดชอบและเป็นหัวหน้า เพราะในงานบางชนิดที่ต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาดรวดเร็ว ต้องกระทำด้วยความเชื่อมั่นและเป็นเรื่องที่ต้องเสี่ยง ความสามารถทางด้านบริหารและการควบคุมคนอื่นชาวราศีเมษจะรับหน้าที่ได้ดีที่สุดและตัดสินใจได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น โบราณจึงกล่าวว่า ผู้ที่เกิดในราศีเมษหรือผู้ที่อยู่ใต้อิทธิพลของดาวอังคารนั้น ต้องเป็นเจ้าคนนายคนและเป็นนักรบผู้กล้าหาญชาญชัยในสงครามเหมาะสำหรับการออกไปรบ ออกไปสู้ และแน่นอนที่สุด ก็เหมาะสำหรับการออกไปตายด้วยเพราะความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยวและการเป็นคนชอบเสี่ยงภัยนั่นเอง ในด้านธุรกิจการงาน โชคลาภหรือโอกาส ชาวราศีเมษคอยอะไรไม่ได้และรอเช้าชามเย็นชามแบบที่รอให้โชควิ่งมาหารือให้ราชรถมาเกยนั้นไม่ได้ 
เขาจะต้องแสวงหา มีไม่มีก็ต้องหาเรื่องให้มันมีให้ได้ ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ ความเร่าร้อนของไฟหรือพลังเพลิงอันไม่เคยดับย่อมเผาชีวิตและวิญญาณของชาวราศีเมษให้เต็มไปด้วยความปรารถนาอยู่ไม่มีวันหยุด มีความต้องการที่เขาจะต้องแสวงหามาให้ได้ ตราบใดที่ความต้องการนั้นยังคุอยู่ในอกและในวิญญาณอันไม่ร่วงโรยของเขา 

การแสวงหาและความต้องการหรือความอยากอันไม่สิ้นสุดของเขา มันมีที่มา ชาวราศีเมษจะไม่เคยจนความต้องการ เพราะในสมองและในความคิดของเขาจะเต็มไปด้วยโครงการและแผนการสารพัด ไม่หมดไม่สิ้น และเขามักจะกระทำตามแผนการหรือโครงการที่เขาค้นคิดนั้นเสมอ และทำในทันทีไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ที่ต้องการการตัดสินใจ และต้องการแก้ปัญหาหรือมีปัญหาใดๆ ขึ้น ชาวราศีเมษจะมองเห็นช่องทางและมีวิธีแก้ไข เหมาะสมและทันกับเหตุการณ์เสมอในทันทีทันใด 

ความต้องการของราศีเมษ เป็นความต้องการที่รุนแรง เป็นความปรารถนาที่เร่าร้อนถ้าไม่สมหวังหรือไม่ได้มันมา เป็นความเร่าร้อนและความทุกข์ทรมานสำหรับชาวราศีเมษเสมอ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดความปรารถนาหรือเกิดความต้องการขึ้น ชาวราศีเมษจะเสาะแสวงหาช่องทาง จะคิดค้นและวางแผนในทันทีทันใดและเขาก็จะลงมือปฏิบัติตามแผนนั้น สำหรับคนอื่นเขาจะยังไม่ห่วง เพราะฉะนั้นชาวราศีเมษจะยังไม่ยอมสละหยาดเหงื่อและปันใจให้แก่ใครก่อนที่เขาจะได้มันมาเป็นของตัวเองเสียก่อน คุณสมบัติเหล่านี้เอง ที่ทำให้ชาวราศีเมษเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับการเป็นหัวหน้าในยามที่เผชิญปัญหา ในยามที่ต้องการความเด็ดขาด ในยามที่ต้องการการตัดสินใจ และในยามที่คนอื่นมองไม่เห็นโอกาสและช่องทางที่จะตัดสินใจอะไรออกมา 

แต่อย่างไรก็ตาม ชาวราศีเมษก็คือ มนุษย์ มนุษย์ทุกคนย่อมมีข้อเสียและข้อบกพร่อง เพราะฉะนั้น ชาวราศีเมษก็มีข้อเสียข้อบกพร่อง หรือจุดอ่อนในชีวิตเหมือนกัน ซึ่งถ้าพูดกันในแง่ของโชคหรือดวงชะตาตามวิธีการทางโหราศาสตร์แล้ว ข้อเสีย ข้อบกพร่อง หรือจุดอ่อนที่ว่านี้เองที่จะเป็นตัวอุปสรรค หรือเป็นตัวที่บั่นทอนโชคชะตาลงไปไม่ให้ประสบความสำเร็จ หรือไม่ให้ประสบโชคดี ตรงข้ามกลับมีโชคร้ายอยู่เสมอ และในชีวิตจะพบแต่ความหักพังอยู่ตลอดเวลา ถ้าตราบใดที่ยังไม่แก้ไขหรือปรับปรุงจุดอ่อนและข้อบกพร่องเหล่านั้นเสีย ข้อเสีย ข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนของชาวราศีเมษ มีลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้ ชาวราศีเมษ มีแนวโน้มหรือตามปกติก็มักจะเป็นคนที่ชอบการโต้แย้งกับคนอื่นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ถ้าหากชาวราศีเมษที่ได้รับอิทธิพลในทางเสีย ก็จะกลายเป็นคนที่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง และยอมอะไรไม่ได้ขึ้นมาทันที อันจะนำไปสู่การพิพาทและการเหม็นหน้า หรือขาดมนุษยสัมพันธ์ซึ่งอาจหมดมิตรเอาได้ง่ายๆ ชาวราศีเมษในด้านลบ จะกลายเป็นคนฉุนเฉียว หงุดหงิด งอแง ขุ่นเคือง ลักษณะที่คนเข้าหน้าไม่ติดเหล่านี้ มักจะมีอยู่เป็นประจำ 


บางทีก็เป็นคนชอบอึกทึก โอ่อ่า ทั้งๆที่ไม่มีอะไรที่ควรจะอึกทึกโอ่อ่า แต่ก็พยายามทำให้มันเป็นจุดสนใจไปพอได้เสี้ยน หรือหาเสี้ยนโดยไม่ได้แกว่งเท้าไปยังงั้นเอง ในด้านของทัศนะหรือความคิดเห็น ชาวราศีเมษในด้านลบนั้น มักจะยึดถือความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ เชื่อใครไม่ได้และยอมรับความคิดเห็นของใครไม่ได้ 
และในขณะเดียวกัน ก็จะพยายามมองความคิดเห็นหรือการกระทำของคนอื่นไปในทำนองประมาทหมิ่นเหม่ไป มองอะไรต่ออะไรในด้านดีไปหมด แม้กระทั่งบางทีการมองนั้นก็คือความฝัน ฝันชนิดที่เลื่อนลอยและไร้เหตุไร้ผลที่สุดก็ฝัน 

ลักษณะของราศีเมษในด้านลบจึงจำเป็นจะต้องระวังให้มาก ชาวราศีเมษจะต้องระวังความพอเหมาะพอดีไว้ให้จงมาก อย่าให้ข้ามเส้น หรือเกินเลยจนเกินไป ถ้าหากข้ามเส้นหรือเกินเลยไป เพราะอิทธิพลในด้านลบของราศีเมษ นอกจากลักษณะเสียที่กล่าวมาแล้ว ชาวราศีเมษยังจะบั่นทอนตนองลงไปอีกด้วยการมีชีวิตอยู่อย่างยกตนข่มท่าน ถือตนเองเป็นใหญ่ชอบมีเรื่องมีราว โอหัง เหิมเกริม หยิ่งทะนงในสิ่งที่ตนไม่มีอยู่ ชอบข่มคนอื่นไม่ว่าจะเป็นในด้านความคิดหรือในด้านการกระทำ มีข้อขัดแย้งและมากไปด้วยปัญหาอันไม่เป็นมิตร อันเกิดจากคนที่เกี่ยวข้อง ยอมใครไม่ได้ คบใครไม่ได้ 

เมื่อเกิดคุณสมบัติในด้านนี้และกลายมาเป็นนิสัยประจำตัว เป็นคุณสมบัติหรือเป็นบุคลิกลักษณะที่เข้าในยามใดหรือถ้ามีอยู่ประจำชีวิตแล้ว คำว่าโชคดีนั้นย่อมไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ความสำเร็จหรือความอบอุ่นในชีวิต ทั้งส่วนตัวหรือการงานนั้นไม่จำเป็นจะต้องหวั่น การดูหมอหรือการไปหาหมอดูนั้น ความจริงก็เพื่อสิ่งนี้ คือรู้สิ่งเหล่านี้ โชคหรือเคราะห์ตามที่หมอดูบอกมามันก็คือ คุณสมบัติและการดำเนินชีวิตอันเป็นอุปสรรค หรือจะเอื้ออำนวยแก่ชีวิตของผู้ไปดูหมอแต่ละคนนั่นเอง ตรงไหนดี ด้านหรือมุมไหนดี ก็พยายามสร้างสรรค์ส่งเสริมมันขึ้นแทน และเพิ่มพูนสิ่งนั้นเพิ่มขึ้น อันไหนมันไม่ดีหรือเป็นด้านเสีย ก็แก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมันเสีย หรือพยายามอย่าให้มันมีอยู่ เรื่องการสะเดาะเคราะห์หรือไปเที่ยวรดน้ำมันน้ำมนต์นั้น มันช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอก เพียงแต่ช่วยให้เกิดกำลังใจขึ้นชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น คนเรานั้น มิได้หนีไปจากธรรมชาติและความเป็นจริงที่ว่า ถ้าหากทำไม่ดีหรือดำเนินชีวิตไม่ถูกไม่ต้องกันอยู่ตราบใด ตราบนั้น โชคดีมันก็มายาก หรือแม้แต่จะรดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ไปสิบวัดร้อยวัด มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตราบใดการปฏิบัติตัวของเราเองมันยังยังเป็นอุปสรรคให้เห็นๆกันอยู่ โหราศาสตร์ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากกระจกที่จะส่องภาพของตัวท่านเองว่าตรงไหนบ้างที่จะควรจะผัดแป้งแต่งเติม ตรงไหนบ้างควรจะอาบน้ำฟอกสบู่เสียอย่าให้มันเลอะ 

สุขภาพโรคภัยไข้เจ็บ
: ตามปกตินั้น ชาวราศีเมษ เป็นคนที่ค่อนข้างจะแข็งแรงสุขภาพดีและไม่ค่อยจะมีโรคภัยไข้เจ็บ มีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ได้สูง และมีความต้านทานเป็นอย่างดีต่อโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด แต่ชาวราศีเมษ จะมีการเจ็บป่วยประจำอยู่อย่างหนึ่งก็คือ บาดแผลเล็กๆน้อยๆซึ่งเกิดจากอาวุธเหล็กและไฟอย่างใดอย่างหนึ่ง และบางครั้งก็มักจะได้รับอุบัติเหตุจากอาวุธและไฟโดยไม่คาดหมายเสมอ โดยปกติบาดแผลและแผลเป็นจะมีอยู่ตามศีรษะและหน้าผาก ชาวราศีเมษ มักจะขับรถเร็ว อันจะได้รับบาดแผลอุบัติเหตุเนื่องจากการขับรถได้ง่าย หรือคนที่ชอบทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือที่เป็นเหล็กหรือของมีคมเฉพาะช่างทุกประเภทในโรงงาน 

ชาวราศีเมษ เป็นคนที่ชอบใช้พลังงานหรือการออกกำลัง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ชาวราศีเมษจะเป็นคนประเภทชอบกีฬา เพื่อการออกกำลังเล่นกีฬาได้ทุกชนิด แต่มักไม่ค่อยเอาจริงเอาจัง เล่นได้ไม่ทนและไม่นานแล้วก็จะเปลี่ยนไปสนใจอย่างอื่น นอกจากโรคที่เกิดบนส่วนบนของร่างกาย เช่นที่ศีรษะหรือหน้าผากแล้ว โรคภัยไข้เจ็บของชาวราศีเมษอีกประการหนึ่งก็คือ โรคที่เกี่ยวกับท้อง กระเพาะและลำไส้ไปพร้อมๆกันด้วย หรือถ้าโรคประจำตัวไม่เกิดในส่วนศีรษะ เช่น ปวดหัวหรือประสาทก็มักจะเกิดจากท้อง 

ชาวราศีเมษ มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้เวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลับให้อิ่ม และอาหารที่สำคัญที่สุดจะต้องเป็นอาหารที่ประกอบด้วยผักมากๆ สิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงให้มากก็คือ การใช้อารมณ์และความรู้สึก ชาวราศีเมษจะต้องพยายามควบคุมอารมณ์และความรู้สึกไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะมันจะระเบิดง่าย พยายามหลีกเลี่ยงความวิตกกังวล ความตื่นเต้น และความโกรธหรือโทสะจริตให้มาก ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะควบคุมสุขภาพร่างกายและสมรรถภาพให้คงเส้นคงวาอยู่ได้ เฉพาะในกรณีที่อายุมากขึ้น การไม่ควบคุมและการไม่ปรับปรุงสิ่งเหล่านี้ให้พอเหมาะพอดี จะเป็นโรคหรือเกิดอุบัติเหตุทางด้านสมองและประสาทส่วนบนอยู่มาก 




การเงินและโชคลาภ
: ชาวราศีเมษ เป็นคนที่ไม่ชอบการสะสมทรัพย์สมบัติ หรืออาจจะเรียกว่าไม่เคยนึกถึงวันข้างหน้าเสียด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เขาฉลาดปราดเปรื่อง ขยัน ทำงานไม่หยุด สามารถจะทำมาหาได้ไม่น้อยหน้าใครแต่เขาก็จะกินจะใช้มันเหมือนกับของไม่มีค่า เขามักจะทะนงตนเองอยู่เสมอว่า เงินเป็นของหาได้ง่าย ข้างหน้าของเขายังมีมากกว่าข้างหลัง ข้างหน้าเขายังหาได้มากกว่าที่หาได้มาแล้ว เขาคิดอยู่เสมอว่า ถ้าหากมีอยู่เขาจะใช้มันทันที และถ้ามันหมดไปเขาจะสบายใจ บางครั้งดูเหมือนว่าถ้าหากเขาได้เงินมา ถ้าเขาไม่รีบใช้มันไปให้หมดๆเสีย เขาจะกลายเป็นคนขี้เกียจและไม่มีวันอยากจะหาเงิน แต่ในทันทีที่เงินเขาหมดมือ เขาจะขยันและกระปรี้กระเปร่าทันที วางแผนวางโครงการและเขาจะรีบแสวงหามันทันที และเขาก็จะได้มันด้วย 

เงินสำหรับชาวราศีเมษจึงมีความหมายน้อยไปหน่อย 
เงินที่ชาวราศีเมษมีอยู่ แม้ว่าเขาจะมีมันอื้อจือเหลียงก็ตาม แต่เขาจะมีทางหมดลงไปโดยวิธีการง่ายๆคือมีแรงกระตุ้นอยากให้เขาอยากได้ อยากซื้อ อยากจะจ่ายมันเพื่อให้สุขหัวใจที่สุดเท่าที่จะสุขได้ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เขาจะใช้เงินซื้อความสบายใจ และซื้อความพอใจทุกอย่างในชีวิต และอีกด้านหนึ่งที่เขาจะต้องเสียก็คือการลงทุน ลงทุนอะไรก็ได้ซึ่งการลงทุนนั้นเขาจะไม่ยั้งคิด ไม่มีแผน เมื่อเขาพอใจ เขาจะโยนโครมลงไปทันที 









เมื่อเขานึกโครงการอะไรขึ้นมาหรือมีใครมาชักชวนวาดภาพอะไรให้เขาเห็น เขาจะลงทุนมันทันทีทันใด ในการลงทุนของเขา เขาจะทำอย่างเอิกเกริกและโอ่อ่าทีเดียว แต่ด้วยการไม่ยอมวางแผน ไม่ใคร่ครวญและไม่รั้งรอของเขานั้น ผลของมันก็คือเงินทุนของเขาจะละลายเป็นน้ำไปในทันที เพราะเขาเป็นคนที่ไม่เคยคิดถึงวันพรุ่งนี้ เรื่องของเขาคือเรื่องของวันนี้ เพราะฉะนั้นการที่เขาจะกะงบประมาณเผื่อได้เผื่อเสีย เขาจะไม่ทำ 
แต่วันหนึ่งเขาก็จะนึกขึ้นมาได้ว่า เขาผิดพลาดและทำไม่ถูก เขาก็เพียงแต่นึกขึ้นมาได้เท่านั้นเอง ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากเขาจะไปหาทุนมาใหม่และมาเริ่มต้นใหม่ ถ้าเขาเป็นนักเล่นม้า และเข้าไปในสนามม้า เขาจะควักเงินบาทสุดท้ายของเขาแทงม้าตัวที่เขาชอบอย่างหมดกระเป๋าในทันที ทั้งๆที่เขาอาจจะไม่แน่ใจว่ามันจะมาหรือไม่มา ซึ่งถ้ามันไม่มา เขาก็พร้อมที่จะเดินกลับบ้าน และบอกตัวเองได้คำเดียวว่า "ไอ้บ้า"! 
แล้วเขาก็จะลืมมันเสีย ทางแก้ไขของเขามีอยู่ทางเดียวก็คือ ก่อนจะทำอะไรลงไปเกี่ยวกับการใช้เงิน เขาจะต้องนับหนึ่งถึงหมื่นเสียก่อน คิดก่อน วางแผนหรือคิดหน้าคิดหลังให้แน่นอนเสียก่อน ทางที่ดีที่สุดเขาจะต้องมีที่ปรึกษาแนะนำในการใช้เงินและการจ่ายเงินให้รอบคอบกับใครสักคนหนึ่ง แต่นั่นแหละเขาอาจจะมีที่ปรึกษาแนะนำอยู่ และขณะที่ปรึกษานั้นเขาก็จะยอมรับฟัง แต่เขาจะไม่ทำตามเสมอไป 
เพราะเขาเป็นชาวราศีเมษ!







2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 มกราคม 2555 เวลา 22:23

    แม่นอะชอบ....รูปสวยตัวหนังสือเยอะเว่อ..

    ตอบลบ
  2. ไม่แม่นได้ไงตรงกับชีวิตที่เหลือตอนนี้เลย สมจริงอะไร อ่านจนจบบอกเลย ชีวิตยากจะเปลี่ยน

    ตอบลบ